Page 315 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 315

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | 257

                           (2.2.5) ประมวลรัษฎากร

                           กฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายภาษีอากร ที่รวบรวมบทบัญญัติทางภาษีอากรหลากหลาย
               ประเภท รวมถึงมาตรการทางภาษีต่าง ๆ เช่นเดียวกันในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความรุนแรง การทารุณกรรม
               และการละเมิดสิทธิของผู้สูงอายุในครอบครัวนั้นได้มีบทบัญญัติทางภาษีอันเป็นมาตรการกฎหมายในการ
               ป้องกันการทอดทิ้งผู้สูงอายุทั่วไปและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ด้วยการก าหนดมาตรการทางภาษีให้กับบุคคลที่
               ท าหน้าที่ดูแล กล่าวคือ มาตรา 47 (1) (ญ) ได้ก าหนดไว้ว่า ลูกที่กตัญญูที่เลี้ยงดูพ่อแม่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและ

               มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพตาม พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้อีก
               30,000 บาท แต่มีข้อจ ากัดว่าการใช้สิทธินี้จะใช้ได้กับลูกเพียงคนเดียวเท่านั้นต่อหนึ่งปีภาษี ซึ่งมาตรการทาง
               กฎหมายดังกล่าวเป็นลักษณะการให้ประโยชน์ทางภาษีที่เป็นค่าลดหย่อนส าหรับผู้ที่อยู่ในอุปการะ อันเป็น

               ค่าลดหย่อนส่วนตัวประเภทหนึ่งที่มีแนวคิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อุปการะ
                                                                                   269
               คือผู้มีหน้าที่เสียภาษีนั้น ให้ความดูแล ช่วยเหลือ อุปการะเลี้ยงดู บิดามารดา ปู่ย่าตายายของตน
                           (2.3) กฎหมายล าดับรอง


                           (2.3.1) ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. 2548 เรื่อง
               ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริมและการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่ง
               ได้รับอันตรายจากการทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือถูกทอดทิ้งและการให้

               ค าแนะน า พ.ศ. 2548 กล่าวคือ กระทรวงการพัฒนาความสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ประกาศก าหนด
               หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับ
               อันตรายจากการถูกกระท ารุนแรงต่าง ๆ เช่น การแสวงหาประโยชน์จากผู้สูงอายุ การท าร้ายหรือการทอดทิ้ง
               ผู้สูงอายุ โดยน าพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 มาตรา 11(8)(9) และมาตรา 24 ซึ่งก าหนดให้ผู้ที่พบเห็น

               ผู้สูงอายุถูกกระท าความรุนแรงให้แจ้งต่อหน่วยงานของรัฐทราบ โดย ในท้องที่เขตกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อ
               กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานให้นักสังคมสงเคราะห์หรือผู้ที่
               ได้รับมอบหมายให้การช่วยเหลือ ส่วนในจังหวัดอื่น ให้แจ้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
               หรือส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด

                           การช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกกระท ารุนแรง โดยให้แยกผู้สูงอายุไปพักอาศัยในสถานที่อื่น ซึ่งมี
               ความปลอดภัยและเหมาะสม โดยค านึงถึงความสมัครใจ หลังจากนั้น น าผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพกาย
               สุขภาพจิตและสอบถามข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ช่วยเหลือให้การฟื้นฟูสภาพร่างกายสภาพจิตใจของ
               ผู้สูงอายุ ให้กลับไปสู่สภาวะปกติและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุ ครอบครัว หรือบุคคลที่ผู้สูงอายุอาศัย

               อยู่ด้วยในกรณีที่ไม่สามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์ได้ให้ด าเนินการส่งผู้สูงอายุเข้ารับการอุปการะในสถาน
               สงเคราะห์คนชรา เว้นแต่ผู้สูงอายุไม่ยอม



                    269 จาก ทฤษฎีภาษีเงินได้และภาษีเงินได้ของไทย (น.117), โดย ไกรยุทธ ธีรตยาคีนันท์, 2521, กรุงเทพฯ: ส านักพิมพ์
               ดวงกมล จ ากัด.
   310   311   312   313   314   315   316   317   318   319   320