Page 314 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 314
256 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
ความผิดซ้ าขึ้นมาอีก เนื่องจากมาตรการทางอาญามีเจตนารมณ์ในการลงโทษผู้กระท าความผิด มิได้เน้นการ
แก้ไขฟื้นฟูผู้กระท าหรือปกป้องผู้ถูกกระท าจากความรุนแรง ดังนั้นการที่มีกฎหมายเฉพาะที่สามารถคุ้มครอง
ผู้ถูกกระท าความรุนแรงจึงเป็นมาตรการที่เหมาะสม เพราะสามารถก าหนดรูปแบบ วิธีการ ขั้นตอนที่แตกต่าง
จากการลงโทษในคดีอาญาทั่วไป ทั้งยังช่วยให้ผู้กระท าความผิดมีโอกาสในการกลับตัว ยับยั้งการกระท า
ความผิดมิให้เกิดขึ้นซ้ าและเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ช่วยด ารงให้สถาบันครอบครัวมั่นคงอยู่
ต่อไปได้
ซึ่งเมื่อท าการศึกษากฎหมายฉบับนี้เห็นได้ว่าผู้ถูกกระท าความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะ
ผู้สูงอายุ จะได้รับประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้อย่างมาก เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีข้อก าหนดหลายประการ
ในการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถให้การช่วยเหลือผู้ถูกกระท าความรุนแรง รวมถึงการเปิดโอกาสให้มีการ
ก าหนดมาตรการเยียวยาชั่วคราวเพื่อคุ้มครองบุคคลที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากความรุนแรง แต่อย่างไรก็
ตามช่องว่างของกฎหมายฉบับนี้ยังมีอยู่ทั้งในประเด็นของการให้น้ าหนักกับการไกล่เกลี่ยและวิธีการยุติความ
ขัดแย้ง รวมถึงกฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นการรักษาสถาบันครอบครัวเป็นหลัก ไม่ได้ค านึงถึงผลกระทบทางสิทธิ
มนุษยชนของผู้สูงอายุ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุส าคัญที่ท าให้ผู้ถูกกระท าด้วยความรุนแรงมีโอกาสที่จะต้องเผชิญกับ
ความรุนแรงได้อีก และด้วยแนวคิดการรักษาสถาบันครอบครัวส่วนนี้ ท าให้ผู้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ต ารวจ
อัยการหรือศาลมองว่าปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อผู้สูงอายุ เป็นปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาครอบครัว
ความคิดดังกล่าวจึงอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ที่จ าเป็นต่อการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน
267
ครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(2.2.4) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายเอกชนที่ว่าด้วยเรื่องสิทธิและหน้าที่และความสัมพันธ์
ของเอกชนต่อเอกชนที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต ตั้งแต่แรกเกิดจนตาย โดยในบรรพที่ 1 นั้น เป็นบทบัญญัติที่กล่าวถึง
สิทธิ หน้าที่ของบุคคล รวมถึงการบัญญัติเรื่องการดูแลและจัดการทรัพย์สินของบุคคลไร้ความสามารถและ
เสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งในกรณีที่บุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถนั้นเป็นบุคคลที่มีอายุ 60
ปีขึ้นไป กล่าวคือเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งบทบัญญัติที่น ามาใช้ในการคุ้มครองสิทธิและป้องกันแก้ไขปัญหาความรุนแรง
และการละเมิดในผู้สูงอายุ ในมาตรา 28 อันเป็นบทบัญญัติที่ให้ความคุ้มครองผู้สูงอายุที่ไร้ความสามารถโดย
ให้อยู่ในความดูแลของผู้อนุบาล เช่นเดียวกันกับมาตรา 32 ที่ให้ความคุ้มครองผู้สูงอายุที่เป็นคนเสมือนไร้
268
ความสามารถโดยให้อยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์
โดยบทบัญญัติดังกล่าวเป็นการบัญญัติป้องกันการที่ผู้สูงอายุถูกละเมิดสิทธิในเรื่องของ
ทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามกลับไม่ปรากฏมาตรการหรือหลักกฎหมายใดในการก ากับดูแล หรือตรวจสอบผู้ที่ท า
หน้าที่เป็นผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล
267 จาก “การใช้ความรุนแรงในครอบครัว: กฎหมายช่วยได้”, โดย ส านักวิชาการ ส านักงานเลขาธิการสภา
ผู้แทนราษฎร, 2558, เอกสารวิชาการอิเล็กทรอนิกส์, หน้า 9-10.
268 จาก ศึกษาวิจัยมาตรการกลไกป้องกันการละเมิดสิทธิผู้สูงอายุ (น.2-8), โดย เดชา สังขวรรณ, 2560, กรุงเทพฯ:
ส านักงานศูนย์วิจัยและให้ค าปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.