Page 312 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 312

254 | รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ (Final Report)

             ความผิดทางอาญาฐานทอดทิ้งคนชราหรือผู้สูงอายุดังกล่าว เพียงผู้กระท าได้ทอดทิ้งคนชราในลักษณะตามที่
                                                                    263
             มาตรา 307 บัญญัติไว้ก็เป็นความผิดแล้ว ไม่จ าต้องมีผลต่อเนื่องใด ๆ เกิดขึ้น
                          นอกจากนั้น ในมาตรา 398 ได้บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดกระท าการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการ

             ทารุณต่อเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี คนป่วยหรือคนชรา ซึ่งต้องพึ่งผู้นั้นในการด ารงชีวิต จะถูกลงโทษโดยการ
             จ าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ” และมาตรา 292  ได้บัญญัติว่า “ผู้ใด
             กระท าด้วยการปฏิบัติอันทารุณหรือปัจจัยคล้ายคลึงกันแก่บุคคลซึ่งต้องพึ่งพา ในการด ารงชีวิตเพื่อให้บุคคลนั้น
             ฆ่าตนเอง ถ้าการฆ่าตนเองนั้นได้เกิดขึ้น หรือได้มีการพยายามฆ่าตนเอง จะถูกจ าคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่

             เกิน 14,000 บาท”

                          มาตรการทางกฎหมายดังกล่าวเป็นความผิดในลักษณะการกระท าความรุนแรงในครอบครัว
             ฐานหนึ่ง ซึ่งผู้ถูกกระท าความรุนแรง สามารถที่จะแจ้งความด าเนินคดีกับผู้กระท าความผิดตามบัญญัติดังกล่าว

             ได้ อย่างไรก็ตามมาตรการในประมวลกฎหมายอาญา เป็นกฎหมายที่มีความประสงค์มุ่งลงโทษผู้กระท า
             ความผิดเพื่อให้ผู้กระท าความผิดรู้สึกเข็ดหลาบ จนไม่กล้าที่จะกระท าความผิดซ้ าอีก ทั้งยังเป็นการเยียวยาทาง
             ความรู้สึกเพื่อไม่ให้ผู้ถูกกระท าแก้แค้นซึ่งเป็นการลงโทษตามทฤษฎีการแก้แค้นทดแทน  แต่ทั้งนี้การน าเอา
                                                                            264
             ประมวลกฎหมายอาญามาใช้กับการแก้ไขความรุนแรงในครอบครัว ย่อมไม่เหมาะสม เนื่องจากการกระท า

             ความผิดต่อบุคคลในครอบครัว เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัว มีความละเอียดอ่อน
             การน ามาตรการที่ใช้กับบุคคลทั่วไปมาใช้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวและความ
             มั่นคงของสถาบันครอบครัวได้ ทั้งนี้การลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาไม่ได้เยียวยาผู้ที่ถูกกระท าความ
             รุนแรงในครอบครัวอย่างแท้จริง แต่ยังเป็นการท าให้บุคคลในครอบครัวได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและ

             รายได้ของครอบครัวอีกด้วยหากว่าผู้กระท าความผิดนั้นเป็นผู้น าครอบครัวหรือผู้ที่ต้องหารายได้มาเลี้ยงดู
             ครอบครัว

                          (2.2.2) พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546

                          พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิของผู้สูงอายุที่ให้มีสิทธิได้รับความ
             ช่วยเหลือจากรัฐ มีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้สิทธิแก่ผู้สูงอายุตามที่ก าหนดไว้อย่างชัดเจนในมาตรา
             11 มีการก าหนดมาตรการที่กล่าวถึงสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือเมื่อผู้สูงอายุได้รับอันตรายจากการทารุณ
             กรรมหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือการทอดทิ้ง เช่น สิทธิในการรับบริการทาง

             การแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งสิทธิในการได้รับค าแนะน า ปรึกษา ด าเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในทางคดี
             หรือในทางแก้ไขปัญหาครอบครัว การด าเนินการเกี่ยวกับสิทธิของผู้สูงอายุนั้น กฎหมายก าหนดให้


                  263 จาก “ความสัมพันธ์ระหว่างการกระท ากับผลแห่งการกระท า,” โดย โกเมน ภัทรภิรมย์, บทบัณฑิตย์, 30, 2516, น.
             104 2516..
                  264 ทฤษฎีแก้แค้นทดแทนคือ การลงโทษเพื่อการแก้แค้นตอบแทนอันเป็นการลงโทษเพื่อให้สาสมกับการกระท า
             ความผิดของบุคคลที่ได้ก่อคดีนั้น เข้าท านองที่ว่า กรรมใดใครก่อ บุคคลนั้นต้องได้รับผลจากการกระท านั้น อันเป็นการลงโทษที่
             ชั่งน้ าหนักตามสัดส่วนแห่งความผิดที่ก่อ เข้าท านองตาต่อตา ฟันต่อฟัน กล่าวคือ บุคคลใดฆ่าบุคคลอื่นตาย บุคคลนั้นจะต้อง
             ได้รับการลงโทษโดยถูกประหารให้ตายตกไปตามกัน.
   307   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317