Page 48 - วารสารวิชาการสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561)
P. 48
ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม 2561) 47
เช่น บุคคลสาธารณะ (Public figure) จะต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าบุคคลทั่วไป การที่กฎหมาย
กำาหนดให้จำาเลยพิสูจน์ความจริงหรือเท็จของเนื้อหาที่เป็นความคิดเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำาได้ เป็นต้น
เหตุผลด้านศีลธรรมอันดี (Morals) เช่น สื่อลามกเด็ก ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ตัดสินว่า กฎหมาย
ที่กำาหนดโทษสำาหรับผู้เผยแพร่สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต มีความจำาเป็นเนื่องจากพิจารณาถึงสภาพการสื่อสาร
27
เนื้อหาที่เด็กอาจเข้าถึงได้ ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา แม้ศาลยอมรับว่าการควบคุมเนื้อหาเพื่อคุ้มครองเด็ก
จะเป็นประโยชน์ที่สำาคัญ แต่ศาลตัดสินว่า กฎหมายหลายฉบับที่ควบคุมเนื้อหาลามกเพื่อคุ้มครองเด็กนั้น
ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับหลักความจำาเป็นและได้สัดส่วน เช่น จำากัดสิทธิผู้ใหญ่ในการเข้าถึง
ข้อมูลไปด้วย รวมทั้งไม่สอดคล้องกับเกณฑ์สิทธิมนุษยชนอื่น เช่น หลักความกว้างและหลักทางเลือกอื่น
ดังจะกล่าวต่อไป
หากนำาเกณฑ์ข้อนี้มาพิจารณากฎหมายไทย เห็นว่า ในส่วนฐานความผิดอาญา มาตรา 14 (2) (3)
ครอบคลุมเนื้อหาที่กระทบความมั่นคงในหลายมิติ โดยไม่ได้จำาแนกอย่างชัดเจนระหว่างการสื่อสารวิพากษ์วิจารณ์
และการสื่อสารในลักษณะกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ทำาให้การวิพากษ์วิจารณ์ตกอยู่ในขอบเขตองค์ประกอบ
ภายนอกของมาตรานี้ได้ สำาหรับองค์ประกอบ “น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็น
ประโยชน์สาธารณะของประเทศ..” ตามมาตรา 14 (2) นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุเพิ่มโทษตามมาตรา 12
จะเห็นว่าเป็นองค์ประกอบคล้ายคลึงกัน ทั้งที่ฐานความผิดทั้งสองอยู่บนพื้นฐานแนวคิดแตกต่างกัน กล่าวคือ
มาตรา 12 เป็นเหตุเพิ่มโทษสำาหรับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่โจมตีระบบหรือข้อมูล (มาตรา 5 - 11)
เช่น การโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานทางทหาร แต่มาตรา 14 (2) เป็นการเผยแพร่ข้อมูลเนื้อหาอันเป็นเท็จ
ซึ่งโดยหลักแล้วไม่ใช่อาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยแท้ (Pure cybercrime) เนื่องจากไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบ
ต่อความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ (Confidentiality, Integrity, Availability : CIA) การกำาหนดความผิด
มาตรา 14 (2) อย่างกว้างโดยใช้องค์ประกอบเกี่ยวกับความมั่นคงดังกล่าว ยังนำาไปสู่ประเด็นความสอดคล้องกับเกณฑ์
ด้านความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่าง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จกับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อความมั่นคง
ของประเทศ ฯลฯ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาโทษของความผิดมาตรา 12 และมาตรา 14 (2) จะเห็นได้ว่า โทษอาญา
สำาหรับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จมีความใกล้เคียงกับโทษอาญาสำาหรับการโจมตีระบบเกี่ยวกับความมั่นคง
28
ซึ่งแสดงให้เห็นแนวคิดของกฎหมายในการควบคุมเนื้อหาข้อมูลเท็จในระดับที่เข้มงวดมากและมีแนวโน้ม
ไม่สอดคล้องกับหลักความได้สัดส่วน
27 From Perrin v. the United Kingdom (decision), No. 5446/03, 18 October 2005.
28 มาตรา 12 โทษจำาคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ในขณะที่มาตรา 12 โทษจำาคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ