Page 42 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 42
30
ห้วยหินลาด อ้าเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ผลการศึกษาพบว่า การจัดการป่าชุมชนทั้งสามชุมชน
มีแนวคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติภายในพื้นที่ป่าชุมชนเป็นของส่วนรวม มิใช่ของบุคคลหรือของกลุ่มใด
กลุ่มหนึ่ง จัดการโดยคณะกรรมการป่าชุมชนประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นประชาชนภายในชุมชนมีการ
ก้าหนดกติกาจัดการ และใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน ด้วยเงื่อนไขว่ากติกาจะต้องผ่านการประชุมพูดคุย
แลกเปลี่ยนกันระหว่างชาวบ้านจนได้รับการยอมรับร่วมกันจึงจะสามารถตั้งเป็นกฎกติกาป่าชุมชนขึ้นใช้
บังคับได้ อย่างไรก็ตาม การจัดการป่าชุมชนทั้ง 3 ชุมชนยังพบปัญหา คือ (1) ปัญหาด้านนโยบายจาก
ส่วนกลางที่มีการปรับเปลี่ยนตามยุคของรัฐบาลที่เปลี่ยนไป หากชุมชนหรือประชาชนสับสนกับ
นโยบายของรัฐอาจน้าไปสู่การขัดแย้งได้ อีกทั้งรัฐยังขาดแนวนโยบายการกระจายอ้านาจจาก
ส่วนกลางให้กับชุมชนในการให้ชุมชนมีสิทธิในการจัดการ การบ้ารุงรักษา และใช้ประโยชน์จาก
ทรัพยากรธรรมชาติ (2) ปัญหาคณะกรรมการป่าชุมชนไม่มีกฎหมายรองรับให้อ้านาจหน้าที่จัดการ
และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ (3) ปัญหาด้านกฎหมายการจัดตั้งป่าชุมชนยังไม่มีกฎหมาย
เฉพาะรับรอง ในปัจจุบันอาศัยกฎหมาย ได้แก่ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484
(ขึ้นอยู่กับกรณีนั้น ๆ) ซึ่งมีข้อจ้ากัดในการด้าเนินการหลายประการ ขาดความคล่องตัวในการ
ด้าเนินงาน และยังมีข้อจ้ากัดในการส่งเสริมให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมกับรัฐอนุรักษ์ จัดการ บ้ารุงรักษา
และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าชุมชน และ (4) ปัญหาความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับคนใน
ชุมชน กรณีป่าชุมชนอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายป่าไม้ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
อย่างเข้มงวด ขณะที่ชุมชนจัดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรจากป่าชุมชนตามวิถีชีวิตที่ผูกพันกับ
ทรัพยากรธรรมชาติมาแต่อดีต เจ้าหน้าที่มองว่าวิถีชีวิตชุมชนขัดต่อกฎหมายป่าไม้จึงท้าให้เกิดปัญหา
ความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อขัดแย้งเกิดจากฐานแนวคิดของชุมชนกับรัฐในการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างกัน เกี่ยวข้องกับสิทธิชุมชนในการเข้าถึง การจัดการ การใช้ประโยชน์
จากฐานทรัพยากรธรรมชาติระหว่างรัฐ หน่วยงานรัฐเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนโดยรัฐบาลซึ่งเป็นผู้
ก้าหนดนโยบายมีแนวคิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอยู่บนฐานความเชื่อว่า หากปล่อยให้
ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปโดยไม่มีการควบคุมจากรัฐ ทรัพยากรธรรมชาตินั้นจะถูกใช้จนหมดสิ้น
เพราะไม่มีใครสนใจดูแลรักษา และผู้ใช้แต่ละคนก็จะพยายามใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนั้นให้มาก
ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ส้าหรับงานศึกษาในต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น Boakye M.K. and Akpor O.B. (2012)
ศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการทรัพยากรน้้าของแอฟริกาใต้ ผลการศึกษาพบว่า ชุมชน
ผู้ด้อยโอกาส (disadvantaged communities) ยังไม่สามารถระบุความมุ่งหวังต่อการจัดการ
ทรัพยากรน้้าที่แท้จริงของตนเองได้ เช่นเดียวกับที่องค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องยังไม่ได้รับความไว้วางใจ
จากชุมชนต่อการจัดการทรัพยากรน้้าซึ่งอาจมีสาเหตุจากการขาดการติดต่อประสานงานที่ดีระหว่าง
องค์กรและชุมชน อันส่งผลให้การมีส่วนร่วมต่อการจัดการทรัพยากรน้้ายังไม่ประสบความส้าเร็จ