Page 143 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 143
136
บทที่ 6 บทสรุปและข้อเสนอแนะ
6.1 บทสรุป
นับตั้งแต่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 และกฎกระทรวงการพิสูจน์
และการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 10 ปี จำนวนคนไทยพลัดถิ่น
ที่เคยขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการปกครองทั้งหมด 17,903 คน และได้การคืนสัญชาติไปแล้วเสร็จจำนวน
12,524 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565) โดยมีคนไทยพลัดถิ่นที่ยังไม่ได้รับการคืนสัญชาติไทยอีกเป็น
จำนวนมาก จนนำไปสู่การตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ ซึ่งจากผล
การศึกษาพบว่า ปัญหาการขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยการ
บังคับใช้กฎหมายเพียงระนาบเดียว เนื่องจากปัญหาของคนไทยพลัดถิ่นมีปัจจัยหลายด้านเข้ามาเกี่ยวข้อง
ที่ทำให้กระบวนการทางกฎหมายไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
ประการแรก ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย กล่าวได้ว่าในการบังคับใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ
(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 ตามคำนิยามมาตรา 4 ยังไม่ครอบคลุมคนไทยพลัดถิ่นอื่นๆ ในประเทศไทย อีกทั้งแม้ว่า
พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 จะเปิดช่องทางให้สามารถกำหนดผู้ซึ่งมีลักษณะอื่นทำนอง
เดียวกันตามที่กำหนดในกฎกระทรวงได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎกระทรวงในการคืนสัญชาติให้กับบุคคล
กลุ่มดังกล่าว
ในส่วนของกฎหมายลำดับรอง ได้แก่ กระทรวงการพิสูจน์และการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น
พ.ศ. 2555 พบว่าบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการรับรองพยานหลักฐานโดยใช้“บุคคลที่น่าเชื่อถือซึ่งมีสัญชาติ
ไทย” ยังไม่มีความชัดเจนถึงคุณสมบัติของบุคคลที่น่าเชื่อถือซึ่งมีสัญชาติไทยว่าหมายถึงบุคคลใด อันทำให้
ในทางปฏิบัติ การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่เกิดความลักลั่นในการยอมรับฟังพยานบุคคล หรือ
การใช้ดุลพินิจในการจัดประชาคมหมู่บ้าน เพื่อตรวจสอบประวัติความเป็นมาของผู้ยื่นคำขอรับรองความเป็น
คนไทยพลัดถิ่นกรณีไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องมาให้การรับรอง ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละท้องที่มีการรับฟัง
พยานพยานบุคคลที่แตกต่างกัน นอกจากการพิจารณาพยานหลักฐานของเจ้าหน้าแล้วในทางปฏิบัติยังพบ
ปัญหาช่องว่างการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากการพิสูจน์และการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นนั้น
กฎกระทรวงได้มีการกำหนดให้มีการออกใบรับคำขอ เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินงานของ
เจ้าหน้าที่ในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ชั้นของอำเภอ จังหวัด กรมการปกครองและคณะกรรมการรับรองความเป็น
คนไทยพลัดถิ่น แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีการหลีกเลี่ยง การดำเนินการตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดโดยการ
ไม่ออก “ใบรับคำขอ” ซึ่งส่งผลต่อการติดตามผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของคนไทยพลัดถิ่นและไม่มี
กรอบระยะเวลาที่แน่ชัดในการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องคำขอพิสูจน์ความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ใบรับ และหนังสือรับรอง
ความเป็นคนไทยพลัดถิ่น พบว่าการให้อำนาจนายอำเภออาจแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับอำเภอขึ้น