Page 129 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 129

122


               เรื่องของพยานหลักฐาน ที่ไม่สามารถเชื่องโยงให้เห็นว่ามีเครือญาติอยู่ในประเทศไทยได้จริงหรือไม่ เพราะ

               บางครั้งมีการอ้างถึงคนตายที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ และเมื่อมีการสะท้อนกลับก็ไม่สามารถติดตามตัวได้
               แต่ในส่วนของพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือเป็นมีสัญชาติไทยในการสอบปากคำนั้นมีปัญหาน้อย  อันเป็นปัญหาของ

               คนไทยพลัดถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของปัญหาเอง ในเรื่องการเตรียมพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความเป็นคนไทย

               พลัดถิ่นกล่าวคือ ถ้าไม่มีเครือญาติต้องไปช่องทางอื่น อีกหนึ่งปัญหาคือในเรื่องของเจ้าหน้าที่  เนื่องจากจำนวน
               เจ้าหน้าที่น้อย เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอเวลาเปลี่ยนตัวก็ต้องไปศึกษาใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาอุปสรรคที่ยังไม่ได้รับการ

               แก้ไข  แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการจ้างลูกจ้างแต่อำนาจในการทำงานไม่มีอำนาจและสอบปากคำไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็
               เป็นปัญหาของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณที่จำกัด เช่นการประชุม ถ้ามีคำร้องเข้ามาน้อย ก็ไม่สามารถ

               จัดประชุมได้ เพราะในการประชุมแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่าย

                       ประเด็นเกี่ยวกับพยานหลักฐานของคนไทยพลัดถิ่นที่สำคัญอีกประการ คือ เรื่องของการตรวจสาร
               พันธุกรรม DNA   ซึ่งเรื่องของการพิสูจน์ความเป็นพ่อ แม่ ลูก ด้วยการตรวจสารพันธุกรรม DNA  เกิดขึ้น

               เพราะขาดประจักษ์พยานยืนยันความสัมพันธ์ เดิม DNA มาใช้แก้ปัญหาครั้งแรกเรื่องของคนไทยตกหล่น และ
               กรณีการขอสัญชาติตามมาตรา  7 ทวิ เช่น พ่อแม่ทอดทิ้ง มีญาติได้สัญชาติไทยแต่ตนเองตกหล่น อดีตกรณี

               ดังกล่าวจะไม่รับคำร้อง เพราะไม่มีหลักฐานทำให้ต้องกลายเป็นคนไร้รัฐไร้สัญชาติ  แต่ต่อมารัฐมีแก้ไขปัญหา

               ด้วยการให้เลข 0 (บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน) และถ้าพิสูจน์ได้หาจุดเกาะเกี่ยวเป็นญาติ หรือเป็นลูกได้ตาม
               หลักสายโลหิตก็จะได้สัญชาติไทย แต่ปัจจุบันทางอำเภอก็ได้นำเรื่องการตรวจสารพันธุกรรม DNA  มาใช้ใน

               การพิจารณาด้วย  ซึ่งกรณีของคนไทยพลัดถิ่นทางกรมการปกครองก็มีการจัดทำโครงการตรวจ ตรวจ DNA ฟรี

               แต่เนื่องจากมีปัญหาทางด้านงบประมาณทำให้ตรวจได้น้อยลง
                       นอกจากปัญหาการของคืนสัญชาติของคนไทยพลัดถิ่นแล้ว ยังเห็นว่ามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26

               มกราคม 2564 เรื่องการจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนไร้สัญชาติเนื่องจาก
               มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวออกมา เพื่อพัฒนาสถานะของบุคคลที่ได้การสำรวจไปแล้ว และเป็นการนำคนเข้าสู่

               ระบบทะเบียนราษฎรตามกฎหมายทะเบียนราษฎร มาตรา 38 วรรคสอง รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่ตกสำรวจก็

               สามารถเข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎรได้ (ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่เคยได้รับการสำรวจ ก็จะมีการ
               แก้ไขกลุ่มตามหนังสือสั่งการต่อไป) ส่วนกลุ่มคนไร้สัญชาติอื่น ๆ สามารถเข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎรได้ โดยขึ้น

               ทะเบียนเป็นเวลา 5 ปี จะได้สิทธิอาศัยในประเทศไทย และสามารถเดินทางไปศึกษาเล่าเรียน สิทธิการ
               รักษาพยาบาล สิทธิในการทำงานตามพระราชกำหนดการทำงานคนต่างด้าว   ฉะนั้นคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26

               มกราคม 2564 จึงออกมาเพื่อนำคนเข้าสู่ระบบกฎหมายราษฎรแทนการมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาใหม่เรื่อย ๆ

               เพราะต้องยอมรับว่าประเทศไทยใช้ระบบเลข 13 หลัก ดังนั้นการเข้ามาอย่างถูกต้องหากไม่มีสัญชาติอื่นแต่มี
               ภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยก็สามารถขอสัญชาติได้แล้ว
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134