Page 127 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 127

120


                           น่าเชื่อถือ” นี้ ยังอาจนำไปสู่ช่องทางในการทุจริต คอร์รัปชั่น การที่ต้องให้มีผู้อื่นมารับรองเป็น

                           การที่สร้างภาระให้ใครคนหนึ่งและทำให้บางคนแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบได้

                       ฉะนั้นในส่วนของกฎหมายสัญชาติตามความเห็นข้างต้น กล่าวได้ว่าเนื้อหาของกฎหมายได้มีการจัด

               วางไว้ดีแล้ว เพียงแต่มีรายละเอียดเล็กน้อยที่ทำให้การนำมาใช้เกิดความคลุมเครือ ตัวอย่างเช่น การตีความ
               เกี่ยวกับคำนิยามของคนไทยพลัดถิ่นว่าจะครอบคลุมถึงคนไทยพลัดถิ่นกลุ่มอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ อีกทั้งใน

               กระบวนการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นในรูปแบบผ่านคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นตาม

               พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 พบว่ายังคงมีปัญหาเกี่ยวกับแต่งตั้งผู้ที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการ

               รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น

                        เนื่องจากเดิมที การแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวต้องใช้คนที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัญชาติ
               ประวัติศาสตร์ การเคลื่อนไหวของประชากร ชาติพันธุ์วรรณา ตั้งแต่เสียดินแดน-ปัจจุบัน ที่สามารถสืบไปได้ถึง

               5 รุ่น รวมถึงบริบทของคนไทยพลัดถิ่นที่แตกต่างกัน ได้แก่ ไทย-พม่า ไทย-มาเล ไทย-ขะแม (เขมร) แต่ปรากฏ

               ว่าในขณะนี้คณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นนั้นส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ (เก่า) หรือภาคประชา

               สังคมที่มิได้แข็งขันต่อสู้เกี่ยวกับประเด็นของคนไร้รัฐไร้สัญชาติ รวมถึงปัญหาของคนไทยพลัดถิ่นเกี่ยวกับ

               สถานะของบุคคล ที่เกิดจากจากสำรวจผิดหลง (ผิดกลุ่ม) ก็ไม่ควรนำเอาวิธีการสำรวจของคนต่างด้าวมาใช้กับ

               คนเชื้อสายไทย (การจับคนไทยพลัดถิ่นมาจัดกลุ่ม) แต่ควรมีกฎหมายเฉพาะแยกสำหรับคนไทยพลัดถิ่น เพราะ
               หากเป็นคนเชื้อสายไทยอย่างไรก็ต้องได้รับการรับรองเพราะกฎหมายไม่ได้บอกให้จัดกลุ่มสำหรับคนไทยพลัด

               ถิ่น  และหากมีการนำเอามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 เรื่องการจัดการปัญหาสถานะและสิทธิ

               ของบุคคล มาใช้กับคนไทยพลัดถิ่นเชื้อสายไทยก็อาจจะนำมาซึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดความสับสนมากขึ้น

                                                                         134
                       ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล  อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์
               มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้ความเห็นและข้อสังเกตเกี่ยวกับการปัญหาความล่าช้า ในการคืนสัญชาติไทยแก่

               คนไทยพลัดถิ่นเกี่ยวกับการพิจารณาพยานหลักฐาน เช่น ปัญหาผังเครือญาติ จะเห็นได้ว่ามีการตั้งคำถาม
               เกี่ยวกับความมั่นคงสูงมาก เจ้าหน้าที่ไม่กล้าใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจ หรืออาจมีเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์เข้า

               มาเกี่ยวข้องได้  หรือกรณีบุคคลที่น่าเชื่อถือซึ่งมีสัญชาติไทยมารับรอง หากมีการใช้คนเดิมมารับรองตลอดก็
                            135
               อาจทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความระแวงได้  หรือในปัจจุบันมีการเพิ่มคำถามในการสอบปากคำพยานเพิ่มขึ้นหรือไม่






               134  สัมภาษณ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 21 มีนาคม พ.ศ.2565

               135  ตัวอย่าง กรณีปัญหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ พบว่าในปี 2552 คนไทยพลัดถิ่นในอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
               ได้เคยยื่นขอบัตรประชาชน แต่เนื่องจากมีการคอร์รัปชั่นเรียกเก็บค่าหัวคิว หัวละ 500 บาท หรือ 1000 บาทหรือมากสุดที่
               7,000 บาท ทำให้สถานะทางทางเบียนของคนไทยพลัดถิ่นจำนวนนับพันถูกจำหน่ายและกลายเป็นบุคคลที่ถูกจำหน่ายออก

               จากทะเบียนราษฎร์  ทำให้การดำเนินการขอรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
                ที่มาhttps://www.posttoday.com/social/local/558796
   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132