Page 172 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 172

(Recommendations by NHRIs) ซึ่ง SCA ได้กล่าวถึง (๔) แห่ง พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ และการเพิ่มเติมหน้าที่
            ข้อกังวลที่ผ่านมาเกี่ยวกับประสิทธิผลของ กสม. ในการ และอ�านาจในการไกล่เกลี่ยใน พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ แล้ว
            จัดการกับประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนภายในระยะ รวมถึงการออกระเบียบรองรับเพื่อประกันความเป็นอิสระ
            เวลาที่เหมาะสม โดย SCA เสนอแนะให้ กสม. ขยาย ของ กสม. ให้มีความชัดเจนมากขึ้นในระหว่างที่รอ
            ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ กสม. มีก�าหนดที่จะส่งเอกสาร
            สิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดตามเฝ้าระวัง  ให้แก่ SCA เพื่อขอเข้ารับการประเมินที่เลื่อนมา ๑๘ เดือน
            (monitoring) เรื่องการเคารพสิทธิในการชุมนุมโดยสงบ  ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ จึงจ�าเป็นที่จะต้องด�าเนินการแก้ไข

            และการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในบริบท  ข้อห่วงกังวลในทุกด้านโดยไม่ล่าช้า
            ดังกล่าว มีการใช้อ�านาจหน้าที่อย่างเต็มที่ รวมถึงการ
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
            ออกข้อเสนอแนะที่สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชน      การจะด�าเนินการยกเลิกบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
            ระหว่างประเทศ แถลงการณ์และรายงานทั้งหมดควร  ถือเป็นข้อท้าทายที่ส�าคัญ เนื่องจากการด�าเนินการ
            เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากจะเป็นการสนับสนุนความ ดังกล่าวอยู่นอกเหนือขอบเขตหน้าที่และอ�านาจของ กสม.
            น่าเชื่อถือและความเป็นอิสระของ กสม. รวมทั้งส่งเสริม  จ�าเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจาก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
            การเข้าถึงของประชาชาชนทุกคนภายในประเทศ ตลอดจน  ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร รวมถึงการ
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
            ด�าเนินการติดตามผลอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่า  สนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ในการร่วมกันผลักดัน
            หน่วยงานของรัฐได้รับทราบและด�าเนินการตามข้อเสนอแนะ  ให้มีการแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายที่ท�าให้สังคมเข้าใจ

            ของ กสม. (๔) อ�านาจหน้าที่กึ่งตุลาการ (Quasi-judicial   คลาดเคลื่อนในความเป็นอิสระของ กสม. ให้ส�าเร็จโดยเร็ว
            functions) ของ กสม. ในการไกล่เกลี่ย ซึ่ง SCA
            มีความเห็นว่า หาก กสม. สามารถแสวงหาข้อยุติที่เป็น ๒)  กรอบความร่วมมือระหว่างสถาบัน
            มิตรและเป็นความลับผ่านกระบวนการแก้ไขทางเลือกอื่น   สิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย-
            ซึ่งรวมถึงอ�านาจในการแสวงหาข้อยุติของข้อพิพาทโดย แปซิฟิก (Asia Pacific Forum of National
            สมานฉันท์ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ย จะช่วยให้ กสม.   Human Rights Institutions: APF)

            ได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนได้รวดเร็ว ๒.๑) ความสำาคัญของกลไก APF
            มากขึ้น ซึ่งหมายถึงการเพิ่มประสิทธิผลในการด�าเนิน   กรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชน
            งานของ กสม. SCA จึงเสนอแนะให้ กสม. ผลักดันให้มี แห่งชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia Pacific Forum
            การขยายหน้าที่และอ�านาจในการจัดการเรื่องร้องเรียน of National Human Rights Institutions: APF)
            ให้รวมถึงอ�านาจในการแสวงหาข้อยุติของข้อพิพาท  จัดตั้งขึ้นเมื่อปี  ๒๕๓๙  เป็นกรอบความร่วมมือที่มี
            โดยสมานฉันท์ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ย              วัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความร่วมมือและความ
                                                             เข้มแข็งระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาค
            ๑.๓)  ประเด็นสำาคัญที่ต้องดำาเนินการต่อเนื่อง   เอเชีย-แปซิฟิก ผ่านกิจกรรมการอบรม การสัมมนา
            ข้อท้าทายและข้อเสนอแนะ                           การดูงาน การหารือในระดับสูง การแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่
                โดยที่การกลับคืนสู่สถานะ ‘A’ มีความส�าคัญต่อ และการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งการมีท่าทีร่วมกันในเวที

            ความน่าเชื่อถือและการปฏิบัติหน้าที่ของ กสม. ทั้งภายใน การประชุมระหว่างประเทศที่ส�าคัญ ปัจจุบันมีสมาชิก
            ประเทศและระหว่างประเทศ ดังนั้น การด�าเนินการเพื่อ ๒๕ สถาบัน ประกอบด้วยสมาชิกสามัญ (Full Members)
            แก้ไขความห่วงกังวลของ SCA ทั้ง ๔ ประการข้างต้น   จ�านวน ๑๖ สถาบัน และสมาชิกสมทบ (Associate
            จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องด�าเนินการต่อ โดยในปัจจุบัน  Members) จ�านวน ๙ สถาบัน โดยจ�าแนกตามสถานะ
            กสม. ได้ด�าเนินการประสานกับฝ่ายนิติบัญญัติและ  ที่ได้รับการประเมินจาก GANHRI ทั้งนี้ APFเป็นองค์กร
            ฝ่ายบริหารในระดับต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนให้มีการยกเลิก  ตัวแทนระดับภูมิภาคที่เข้าร่วมใน GANHRI ได้รับเงิน
            บทบัญญัติมาตรา  ๒๔๗  (๔)  ของรัฐธรรมนูญแห่ง  ทุนสนับสนุนกิจกรรมในรูปแบบของค่าบ�ารุงจากสถาบัน

            ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และมาตรา ๒๖   สิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่เป็นสมาชิก ส�านักงานข้าหลวงใหญ่





       170
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177