Page 169 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 169
๓.๗ ความร่วมมือระหว่างประเทศ สถาบันแห่งชาติ (Principles relating to the status
ด้านสิทธิมนุษยชนและการดำาเนินการ of national institutions) หรือหลักการปารีส (Paris 1
เกี่ยวกับหนังสือสัญญาเกี่ยวกับ Principles) สร้างความเป็นผู้น�าด้านการส่งเสริมและ
สิทธิมนุษยชน คุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจนให้การสนับสนุนและ 2
อ�านวยความสะดวกในการประสานงานกับกลไก
กสม. ได้ประสานความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนกับ สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเพื่อเสริมสร้างสิทธิมนุษยชน 3
พันธมิตรในเวทีระหว่างประเทศ ได้แก่ สถาบันสิทธิมนุษยชน ในประเทศ โดยเฉพาะกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ กลไกด้านสิทธิมนุษยชนในองค์การสหประชาชาติ แห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council: HRC)
องค์การระหว่างประเทศ ตลอดจนรัฐบาลและองค์กร และกลไกภายใต้สนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน (Treaty 4
ต่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีภารกิจหลักในการ Bodies) เนื่องจากสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นกลไก
เสริมสร้างความร่วมมือ ติดตามพัฒนาการที่ส�าคัญด้าน ภายในประเทศที่ท�าหน้าที่เบื้องต้นแทนกลไกสิทธิมนุษยชน 5
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ การแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง สหประชาชาติ สามารถให้ข้อมูลและน�าเสนอรายงาน
ด้านสิทธิมนุษยชนร่วมกัน โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นปัญหา เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศได้อย่างเป็นอิสระและ
ข้ามพรมแดน โดยได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ เชื่อถือได้ตามอ�านาจหน้าที่ภายใต้หลักการปารีส
ตัวอย่างที่ดีในการด�าเนินงาน เพื่อส่งเสริมการเคารพ
สิทธิมนุษยชนในประเด็นส�าคัญที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน กลไกการด�าเนินงานที่ส�าคัญของ GANHRI ประกอบด้วย
อันจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือและภาพลักษณ์ที่ดี การประชุมประจ�าปี (Annual Meeting) การประชุม
ขององค์กรในฐานะสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเวที นานาชาติ (International Conference) และกลไกการ
ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ภารกิจที่ส�าคัญอีกประการหนึ่ง ประเมินสถานะความสอดคล้องกับหลักการปารีสของ
คือการท�าหน้าที่เป็นกลไกในระดับประเทศที่จะติดตาม สมาชิก (GANHRI Accreditation)
การด�าเนินการภายในประเทศให้สอดคล้องกับพันธกรณี
ตามหนังสือสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณี (๑) การประชุมประจ�าปี (Annual Meeting)
ต้องปฏิบัติตาม รวมถึงมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่าง เป็นการประชุมเพื่อพบปะหารือกันเป็นประจ�าของสถาบัน
ประเทศ โดยสรุปสาระส�าคัญได้ ดังนี้ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั่วโลกที่เป็นสมาชิก ณ นครเจนีวา
จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง GANHRI และส�านักงาน
๑) กรอบความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตร ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (Office of High Commissioner for Human Rights: ผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
(Global Alliance of National Human OHCHR) และโดยปกติจะจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน
Rights Institutions: GANHRI) ๓๗ กับการประชุมรอบปกติของ HRC ในช่วงระหว่างเดือน
๑.๑) ความสำาคัญของกลไก GANHRI กุมภาพันธ์ - มีนาคมของทุกปี เนื่องจากในช่วงการประชุม
GANHRI เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกันในรูปแบบของ HRC นั้น สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจากแต่ละ
องค์กรเครือข่ายสมาชิก (member-based body) ของ ประเทศสามารถเข้าร่วมรับฟังการประชุมได้และสถาบัน
สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทั่วโลก ปัจจุบันมี ๑๑๗ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่มีสถานะ ‘A’ สามารถแสดง
สถาบัน ประกอบด้วยสมาชิกที่มีสถานะ ‘A’ จ�านวน ข้อคิดเห็นของตนในวาระที่เกี่ยวข้องได้ ในขณะเดียวกัน
๘๔ สถาบัน และสมาชิกที่มีสถานะ ‘B’ จ�านวน ๓๓ GANHRI เข้าร่วมการประชุมและสามารถแสดงบทบาท
สถาบัน (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม ๒๕๖๔) และมิใช่องค์กร ในฐานะผู้แทนเครือข่ายในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
ในเครือสหประชาชาติ (Non-UN body) มีวัตถุประสงค์ ในช่วงการประชุมประจ�าปีจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย
เพื่อประสานการด�าเนินงานและเสริมสร้างความเข้มแข็ง การประชุมคณะกรรมการบริหาร GANHRI (GANHRI
ของสมาชิกให้สอดคล้องกับหลักการเกี่ยวกับสถานะของ Bureau) การประชุมสมัชชาใหญ่ (General Assembly)
๓๗ ชื่อเดิม คือ คณะกรรมการประสานงานระหว่างสถาบันแห่งชาติเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (International Coordinating Committee
of National Institutions for the Promotion and protection of Human Rights - ICC) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖
167