Page 138 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 138

โดยเฉพาะในสถานีต�ารวจขนาดเล็กหรือที่อยู่ห่างไกล  ภาคประชาสังคมของกรรมการ การลาออกของกรรมการ
            ในศูนย์กักกันของส�านักงานตรวจคนเข้าเมือง ทางการ ท�าให้จ�านวนกรรมการลดลงเหลือ ๓ คน จากปกติ ๗ คน
            ควบคุมเยาวชนอายุเกิน ๑๔ ปี รวมกับผู้ใหญ่         ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ประธานศาลฎีกาและ
                                                             ประธานศาลปกครองสูงสุดใช้อ�านาจหน้าที่ในการแต่งตั้ง
                ประเด็นการคุมขังเด็ก พระราชบัญญัติศาลเยาวชน กรรมการ ๔ คนเป็นการชั่วคราว ท�าให้ กสม. มีกรรมการ
            และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว  เต็มจ�านวน ๗ คน ซึ่งกระบวนการคัดเลือกดังกล่าว
            พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีเจตนารมณ์ในการ  ควรเกิดขึ้นในปี  ๒๕๖๐  ภายหลังการประกาศใช้

            คุ้มครองเด็กที่กระท�าผิดโดยก�าหนดมาตรการ เพื่อหลีกเลี่ยง  รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
            การคุมขังเด็กและเบี่ยงเด็กออกจากกระบวนการยุติธรรม
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
                                                                กรณีสถิติเรื่องร้องเรียนที่ กสม. ได้รับ มีความ
            คำาชี้แจง                                        คลาดเคลื่อน ในช่วงเวลาดังกล่าว กสม. ได้รับเรื่องร้อง
                กรณีระบุว่า ในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ นายก เรียนกรณีกล่าวอ้างว่ามีการกระท�าหรือละเลยการกระท�า
            รัฐมนตรีประยุทธ์ ยกเลิกค�าสั่ง คสช. ๗๖ ฉบับ ซึ่งรวมถึง อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสิ้น ๕๐๘ เรื่อง
            ฉบับที่ห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ด้วย “ประทุษร้าย” และ
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
            “ข้อมูลบิดเบือน” เพื่อหวังจะ “ท�าลายความน่าเชื่อถือ”   กรณี กสม. ไม่ยื่นฟ้องผู้กระท�าการละเมิดสิทธิมนุษยชน
            ของ คสช. หรือกองทัพ โดยเด็ดขาด สื่อยังคงมีข้อจ�ากัด  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐

            เนื่องจากค�าสั่งที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทหารมีอ�านาจ  และ พ.ร.ป. กสม. ไม่ได้ให้อ�านาจดังกล่าว กรณีอ้างว่าวิธี
            ในการห้ามการเผยแพร่สิ่งพิมพ์ใด ๆ ที่อาจน�าไปสู่   การด�าเนินงานภายในขัดขวางไม่ให้กรรมการรับค�าร้อง
            “ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” หรือ “มีข้อมูลบิดเบือน และการลิดรอนการมีส่วนร่วมกับภาคประชาสังคมของ
            ที่มีแนวโน้มที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน”   กรรมการ ขอชี้แจงว่า ระเบียบ กสม. ว่าด้วยหลักเกณฑ์
            ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่  และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
            ปิดสื่อที่วิจารณ์รัฐบาลทหาร                      พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๑๓ (๒) ก�าหนดให้การยื่นเรื่องร้องเรียน
                                                             สามารถยื่นต่อกรรมการคนใดคนหนึ่งได้ ส่วนการท�างาน

                ประเทศไทยไม่มีประกาศหรือค�าสั่ง คสช. ที่ให้อ�านาจ กับภาคประชาสังคม กสม. มีการด�าเนินงานร่วมกับ
            เจ้าหน้าที่ทหารห้ามการเผยแพร่ข้อมูลหรือปิดสื่อที่วิจารณ์ ภาคส่วนต่าง ๆ อยู่แล้ว และกรณีการสรรหา กสม. นั้น
            รัฐบาลตามที่กล่าวอ้างในรายงานฯ                   ได้เริ่มด�าเนินการภายหลังจาก พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ โดย
                                                             กสม. ได้ออกระเบียบที่เกี่ยวข้องและด�าเนินการประชุม
            คำาชี้แจง                                        เพื่อสรรหาผู้จะเป็นคณะกรรมการสรรหาเสนอวุฒิสภา
                กรณีระบุว่า กสม. เป็นคณะกรรมการอิสระที่มีภารกิจ ซึ่งแล้วเสร็จในกรอบเวลาตาม พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐
            ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและจัดท�ารายงานประจ�าปี
            กสม. ได้รับค�าร้อง ๗๒๗ เรื่อง นับตั้งแต่เดือนมกราคม  คำาชี้แจง
            ถึงธันวาคม ในจ�านวน ๔๔๖ เรื่องนี้ มี ๕๒ เรื่องที่ กสม.    กรณีองค์กรที่ไม่ใช่องค์กรภาครัฐยืนยันว่า การแก้ไข

            รับไว้สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม และ ๒๒ เรื่องเกี่ยวข้องกับ เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาในเดือนพฤษภาคม
            ข้อกล่าวหาการกระท�ามิชอบโดยต�ารวจ กลุ่มสิทธิมนุษยชน  ซึ่งยกเลิกมาตรการตามกฎหมายเดิมที่ผ่อนผันให้
            ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ กสม. กรณีไม่ยื่นฟ้องร้องผู้กระท�าการ ผู้กระท�าผิดในคดีใช้ก�าลังท�าร้ายทางเพศที่อายุต�่ากว่า
            ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยตนเองหรือในนามของผู้ร้องเรียน  ๑๘ ปีสามารถหลีกเลี่ยงการด�าเนินคดีได้ด้วยการเลือก
            เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ มีกรรมการสิทธิมนุษยชน  ที่จะแต่งงานกับผู้เสียหาย การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว
            แห่งชาติ ๒ คน ลาออก โดยมีรายงานว่าสาเหตุมาจาก ก�าหนดให้ผู้กระท�าผิดที่เป็นเยาวชนสามารถหลีกเลี่ยง
            ความไม่พอใจวิธีการด�าเนินงานภายใน ซึ่งขัดขวางไม่ให้ การด�าเนินคดีได้ภายหลังส�าเร็จโครงการบ�าบัดแก้ไขฟื้นฟู

            กรรมการรับค�าร้องโดยตรง และลิดรอนการมีส่วนร่วมกับ  ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวก�าหนดให้เข้าร่วมเท่านั้น





       136
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143