Page 131 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 131
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลัก คำาชี้แจง 1
รับเรื่องไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวง กรณีกล่าวอ้างว่า สนช. ระงับการพิจารณาร่างพระราช
ยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ บัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระท�าให้
กรมประชาสัมพันธ์ ส�านักงานคณะกรรมการกิจการ บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... โดยรัฐบาลยังไม่มีการชี้แจงว่า 2
กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม จะบรรจุร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณา
แห่งชาติ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติและ อีกหรือไม่ และประมวลกฎหมายอาญายังไม่ก�าหนด 3
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางหรือผลการ ฐานความผิดส�าหรับการบังคับบุคคลให้สูญหาย
ด�าเนินการดังกล่าวในภาพรวมแล้วส่งให้ส�านักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งค�าสั่ง กรณีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม 4
เพื่อน�าเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป การทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... นั้น
เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ 5
๓.๔ การชี้แจงและรายงานข้อเท็จ กระทรวงยุติธรรมไปด�าเนินการพิจารณาร่วมกับหน่วยงาน
จริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดท�าประชาพิจารณ์
มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับ แม้ยังไม่มีกฎหมายในเรื่องนี้แต่รัฐบาลไทยได้มีค�าสั่งส�านัก
สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ นายกรัฐมนตรีที่ ๑๓๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม
ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ๒๕๖๐ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์
กรณีถูกกระท�าทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
เป็นหน้าที่และอ�านาจใหม่ตามรัฐธรรมนูญแห่ง มีหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ติดตาม
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๔๗ ช่วยเหลือเยียวยา และคุ้มครองสิทธิให้แก่ประชาชน
(๔) และตาม พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖ (๔) และ ในกรณีถูกกระท�าทรมานและบังคับให้หายสาบสูญ
มาตรา ๔๔ โดย กสม. ชุดที่ ๓ ได้ชี้แจงและจัดท�าค�าชี้แจง
ตามหน้าที่และอ�านาจประการนี้ จ�านวน ๘ ฉบับ ดังนี้ คำาชี้แจง
กรณีกล่าวอ้างว่ายังไม่มีการด�าเนินคดีกับเจ้าหน้าที่
๑. ค�าชี้แจงที่ ๑/๒๕๖๑ กรณีการรายงานสรุป ทหารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการสังหาร
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และการท�าให้พลเรือนบาดเจ็บในช่วงการประท้วง
ขององค์กรฮิวแมนไรทส์วอทช์ ทางการเมืองในปี ๒๕๕๓ และการด�าเนินคดีกับผู้กระท�า
คำาชี้แจง ความผิดต่อเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในช่วงปี ผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กรณีกล่าวอ้างว่าการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับ กสม. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ ไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน
ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะท�าให้ กสม. อ่อนแอ
ลงอย่างมาก ขาดความเป็นอิสระ และเปลี่ยนให้หน่วยงาน กสม. ได้มีรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี
นี้เป็นเพียงกระบอกเสียงของรัฐบาล เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงทางการเมืองเมื่อปี ๒๕๕๓
และปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ ซึ่งมีข้อเสนอแนะให้มีการสืบสวน
ในระหว่างการตรา พ.ร.ป. กสม. เรียกร้องให้แก้ไข สอบสวนหาผู้กระท�าความผิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า
ปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอ�านาจตามมาตรา ๒๖ (๔) มีการด�าเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
จนมีการตรา พ.ร.ป. ดังกล่าว ซึ่งมาตรา ๔๔ บัญญัติให้ ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารและการท�าให้พลเรือนบาดเจ็บ
กสม.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายงานสถานการณ์ ในช่วงการประท้วงทางการเมืองเมื่อปี ๒๕๕๓ รวมทั้ง
นั้นก่อนการชี้แจงหรือจัดท�ารายงานข้อเท็จจริง มีการด�าเนินคดีกับแกนน�ากลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงทาง
ที่ถูกต้องของสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้น กสม. ย่อมต้อง การเมืองเมื่อปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗
ชี้แจงหรือรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องซึ่งเป็นอยู่หรือเคย
เกิดขึ้นในประเทศไทย มิได้เป็นการปกป้องหน่วยงานหรือ
องค์กรใด
129