Page 126 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 126

ข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและ  ความเสียหายที่จะเกิดแก่เด็กและเยาวชน อันเนื่องจาก
            การบังคับใช้กฎหมาย ที่ สค. ๓๒/๒๕๔๘ เรื่อง อุทธรณ์ ตราบาป และไม่ให้เผยแพร่ข่าวสารที่อาจท�าให้สามารถ
            ค�าสั่งไม่ลบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประวัติอาชญากร   รู้ตัวผู้กระท�าความผิดที่เป็นเด็กและเยาวชนและจะต้อง
            ได้พิจารณาว่า การกระท�าความผิดในขณะที่เป็นเด็ก  ไม่ขัดต่อหลักการคืนเด็กสู่สังคมตามอนุสัญญาว่าด้วย
            และเยาวชน  และศาลมีค�าพิพากษาให้เปลี่ยนโทษ  สิทธิเด็ก ข้อ ๓๙ อีกทั้ง พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
            เป็นการฝึกอบรม  ณ  สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก  พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๒๒ บัญญัติว่า “การปฏิบัติต่อเด็ก
            และเยาวชน เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว สถานพินิจและ  ไม่ว่ากรณีใดให้ค�านึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็น

            คุ้มครองเด็กและเยาวชนออกใบบริสุทธิ์ให้เด็กและ ส�าคัญ....” ในการเปิดเผยประวัติเด็กหรือเยาวชนไม่ว่า
            เยาวชนจึงมิได้มีฐานะเป็นอาชญากรแต่อย่างใด การที่ โดยทางใดทางหนึ่งย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก และ
          รายงานผลการดำาเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ ๓
            ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติจัดเก็บข้อมูลผู้อุทธรณ์ในฐานะ ส�าหรับการเปิดเผยโดยอ้างเหตุความจ�าเป็นอย่างยิ่งและ
            เป็นอาชญากรในทะเบียนประวัติอาชญากรตามระเบียบ เจ้าของประวัติยินยอมนั้น ก็ยังไม่มีขอบเขตชัดเจนว่า
            ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติและยังน�าข้อมูลดังกล่าวมา เหตุจ�าเป็นอย่างยิ่งได้แก่กรณีใดบ้าง อันเป็นการให้อ�านาจ
            เปิดเผยในทางที่เป็นโทษแก่เด็กและเยาวชนจึงเป็นการ ในการใช้ดุลพินิจที่กว้างเกินไป อันอาจเกิดการละเมิดสิทธิ
            เก็บข้อมูลและเปิดเผยที่ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์  ของเด็กและเยาวชนซึ่งขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
      สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ
            ของพระราชบัญญัติจัดการฝึกและอบรมเด็กบางจ�าพวก  กฎอันเป็นมาตรฐานขั้นต�่าของสหประชาชาติว่าด้วย
            พุทธศักราช ๒๔๗๙                                  การบริหารงานยุติธรรมเกี่ยวกับคดีเด็กและเยาวชน

                                                             พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธี
                ดังนั้น เมื่อพิจารณาระเบียบส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ  พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ ทั้งนี้
            ว่าด้วยประมวลระเบียบการต�ารวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะ ระเบียบส�านักงานต�ารวจแห่งชาติว่าด้วย ประมวลระเบียบ
            ที่ ๓๒ การพิมพ์ลายนิ้วมือ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗   การต�ารวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ ๓๒ การพิมพ์
            พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐   ลายนิ้วมือ  (ฉบับที่  ๓)  พ.ศ.  ๒๕๕๗  ไม่ได้บัญญัติ
            และพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและ  ให้ชัดเจนว่ากรณีการตรวจสอบรายการประวัติหรือบัญชี
            วิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกอบ  ของบุคคลใดตามข้อ ๔.๓ ว่าเป็นเด็กหรือเยาวชนหรือ

            กับค�าวินิจฉัยของคณะกรรมการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร บุคคลทั่วไป ดังนั้น จึงควรให้ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ
            สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้ แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบส�านักงานต�ารวจแห่งชาติฉบับ
            กฎหมาย ที่ สค. ๓๒/๒๕๔๘ เรื่อง อุทธรณ์ค�าสั่งไม่ลบ ดังกล่าว โดยก�าหนดให้มีการคัดแยกประวัติการกระท�าผิด
            ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประวัติอาชญากรแล้ว จะเห็นได้ว่า  ของเด็กและเยาวชนและบัญชีทะเบียนประวัติของเด็กและ
            หากเป็นการเปิดเผยเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาวิจัย  เยาวชนไว้ในหมวดใดหมวดหนึ่งโดยเฉพาะ แยกจากกรณี
            จะต้องไม่มีการระบุชื่อหรือท�าให้รู้ว่าประวัติการกระท�า การกระท�าความผิดของบุคคลทั่วไป เพื่อให้สอดคล้อง
            ผิดนั้นเป็นของเด็กหรือเยาวชนคนใด และการเปิดเผย กับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก กฎอันเป็นมาตรฐานขั้นต�่า
            ประวัติการกระท�าผิดของเด็กและเยาวชนคนใดคนหนึ่ง  ของสหประชาชาติว่าด้วยการบริหารงานยุติธรรมเกี่ยวกับ
            โดยเฉพาะเจาะจงย่อมไม่สามารถท�าได้  เนื่องจาก  คดีเด็กและเยาวชน  ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน
            พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธี รวมถึงพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและ

            พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวฯ ได้บัญญัติไว้เป็น วิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓
            บทบัญญัติเด็ดขาดห้ามมิให้เปิดเผยประวัติเด็กหรือ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
            เยาวชนที่เป็นผลร้ายต่อเด็กหรือเยาวชน นอกจากนี้  และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยค�านึง
            องค์การสหประชาชาติยังได้ก�าหนดกฎอันเป็นมาตรฐาน ถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กและเยาวชนเป็นส�าคัญ รวมทั้ง
            ขั้นต�่าของสหประชาชาติว่าด้วยการบริหารงานยุติธรรม เห็นควรมีข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ
            เกี่ยวกับคดีเด็กและเยาวชน (กฎแห่งกรุงปักกิ่ง) ข้อ ๘   ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึงข้อเสนอ

            ข้อย่อย ๘.๑ และ ๘.๒ ซึ่งวางหลักการให้มีการเคารพ  ในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่ง
            ต่อสิทธิส่วนตัวของเด็กและเยาวชน  เพื่อหลีกเลี่ยง  ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ต่อส�านักงานต�ารวจ



       124
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131