Page 97 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 97

096






                  กรณีที่ 7 ขอความช่วยเหลือให้สิทธิครอบครองบ้าน 3.2  การเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ
            และที่ดินตกเป็นของบุตรผู้ร้อง                          ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                  ผู้ร้องเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว (อัมพาต) ปัจจุบัน    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

            อาศัยอยู่กับภรรยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จ�านวน  มาตรา 247 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
            3 คน ในบ้านซึ่งเป็นของบิดาผู้ร้อง ตั้งอยู่บนที่ดิน น.ส. 3   ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา
            ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยขณะที่บิดาของผู้ร้องยังมีชีวิตอยู่ได้ 26 (3) ก�าหนดให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
            ท�าพินัยกรรมยกบ้านหลังอื่นให้พี่น้องร่วมบิดามารดาของผู้ร้อง  มีหน้าที่และอ�านาจในการเสนอแนะมาตรการหรือแนวทาง

            จ�านวน 2 คน ปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวตกเป็นของอา หลังจาก  ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไข
            บิดาผู้ร้องเสียชีวิต อาของผู้ร้องได้น�าป้ายมาติดที่หน้าบ้าน  ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่งใด ๆ ต่อรัฐสภา
            เพื่อขับไล่ผู้ร้องและครอบครัวออกจากบ้าน ท�าให้ภรรยาผู้ร้อง  คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับ

            เกิดความเครียดและมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ผู้ร้องเกรงว่า หลักสิทธิมนุษยชน และรัฐธรรมนูญมาตรา 247 วรรคสอง
            หากผู้ร้องเสียชีวิต บุตรทั้ง 3 คนจะไม่มีที่อยู่อาศัย จึงร้องเรียน ที่บัญญัติให้เมื่อรับทราบข้อเสนอแนะดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี
            มาเพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องมีสิทธิในบ้านหลัง ด�าเนินการปรับปรุงแก้ไขตามความเหมาะสมโดยเร็ว หากไม่อาจ
            ดังกล่าว เนื่องจากอาศัยอยู่มาตั้งแต่ก�าเนิด โดยขณะนี้ภรรยา ด�าเนินการได้หรือต้องใช้เวลาให้แจ้งเหตุผลให้คณะกรรมการ
            และบุตรทั้งสามของผู้ร้องได้ย้ายออกจากบ้านหลังดังกล่าว สิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบโดยไม่ชักช้า

            แล้ว ผู้ร้องประสงค์ให้บ้านหลังดังกล่าวตกเป็นทรัพย์สินของ    ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
            บุตรทั้งสามคน ทั้งนี้ ได้ร้องเรียนอัยการสูงสุด ประธานศาลฎีกา  แห่งชาติได้จัดท�าข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการ
            ประธานองคมนตรีด้วย ซึ่งส�านักงานอัยการสูงสุดแจ้งผู้ร้องว่าได้ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุง

            ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังจังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยอยู่ระหว่าง กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�าสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ
            การด�าเนินการ                                     หลักสิทธิมนุษยชน ทั้งที่เป็นข้อเสนอแนะที่เสนอโดยตรงต่อ
                  กรณีดังกล่าวเป็นการขอความช่วยเหลือให้ได้สิทธิ  คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเสนอผ่านรายงาน
            ครอบครองบ้านและที่ดิน น.ส.3 ที่ผู้ร้องอาศัยอยู่ให้ตกเป็น ผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนรายกรณี โดยขอ
            ของบุตรผู้ร้อง เป็นข้อพิพาทเรื่องมรดกซึ่งต้องใช้กระบวนการ น�าเสนอเฉพาะข้อเสนอแนะที่เสนอโดยตรงต่อคณะรัฐมนตรีและ

            พิจารณาคดีของศาลยุติธรรม จึงเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จ�านวน 6 เรื่อง ดังนี้
            อ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบ
            กับจังหวัดนครราชสีมาได้รับเรื่องไว้ด�าเนินการตรวจสอบแล้ว  3.2.1 ข้อเสนอแนะฯ เรื่อง ปัญหาพนักงานจ้างเหมาบริการ
            แต่เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้องได้เจรจาตกลง ในหน่วยงานของรัฐไม่ได้รับความเป็นธรรมในการ
            ท�าความเข้าใจกัน กรณีดังกล่าวสมควรได้รับการไกล่เกลี่ย  ปฏิบัติงาน

            ข้อพิพาทโดยศูนย์ด�ารงธรรมจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ประสาน    ประเด็น/ความเป็นมา
            การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยส่งเรื่องให้ศูนย์ด�ารงธรรม จังหวัด    หน่วยงานภาครัฐได้จัดจ้างพนักงานจ้างเหมาบริการ
            นครราชสีมา เพื่อพิจารณาด�าเนินการต่อไป            ในรูปแบบของสัญญาจ้างท�าของเพื่ออ�าพรางสัญญาจ้างแรงงาน
                                                              อันเป็นนิติสัมพันธ์ที่แท้จริง ส่งผลให้พนักงานจ้างเหมาบริการ

                                                              ไม่ได้รับความคุ้มครองในฐานะลูกจ้าง ทั้งที่ในทางปฏิบัติ
                                                              มีลักษณะการท�างานที่ไม่แตกต่างจากข้าราชการหรือพนักงาน
                                                              ราชการ อาจเป็นเหตุให้ส่วนราชการต่าง ๆ มีการปฏิบัติที่แตกต่าง

                                                              กันต่อบุคคลที่ท�างานในลักษณะอย่างเดียวกันด้วยเหตุ
                                                              แห่งสถานะของการจ้างแรงงาน ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติที่ไม่
                                                              เป็นธรรมต่อกลุ่มพนักงานจ้างเหมาบริการ ซึ่งคณะกรรมการ
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102