Page 94 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 94
รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 093
ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับเรื่องไว้เพื่อประสาน ต่างประเทศแห่งหนึ่งเพื่อส่งผู้เสียหายทั้งสองกลับไปยังประเทศ
การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน ของตน โดยแจ้งกับพนักงานของสายการบินว่าผู้เสียหายทั้งสอง
ภาคประชาสังคม หรือบุคคล เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง ต่อมา ผู้ถูกร้องยอมรับว่ากรณีดังกล่าว
ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามความจ�าเป็นและความเหมาะสม เกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของพนักงานของตน จึงขอคืน
แก่กรณี โดยมีกรณีตัวอย่าง ดังนี้ เงินค่าเที่ยวบิน พร้อมเสนอเที่ยวบินให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ
เสนอค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายทั้งสอง แต่ผู้เสียหาย
กรณีที่ 1 การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม กรณี ทั้งสองเห็นว่าตนถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเนื่องจากความแตกต่าง
นักท่องเที่ยวชาวเคนยาถูกส่งตัวกลับออกไปจากประเทศไทย ในเรื่องเชื้อชาติ และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงในทางธุรกิจ
โดยผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการจัดการการท่องเที่ยวของผู้เสียหาย นอกจากนั้น
ผู้ร้องเป็นบรรณาธิการประจ�าประเทศไทยของเว็บไซต์ ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังกระทรวง
ข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการ การต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส�านักงาน
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยกล่าว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อสอบถามความคิดเห็น
อ้างว่า ผู้เสียหายที่ 1 และผู้เสียหายที่ 2 เป็นนักท่องเที่ยวชาวเคนยา แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ บทที่
ถูกส่งตัวกลับออกไปจากประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย เนื่องจาก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ประสาน 3
ผู้ถูกร้อง (สายการบินแห่งหนึ่งในประเทศไทย) แจ้งกับสาย การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยังผู้ถูกร้อง ซึ่งชี้แจงว่า ผู้ถูกร้อง
การบินต่างประเทศแห่งหนึ่งว่า ผู้เสียหายทั้งสองถูกปฏิเสธไม่ให้ มีคู่มือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบเอกสารการเดินทางและ
เข้าเมืองที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจัยในการด�ารงชีพของผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศ
ซึ่งไม่เป็นความจริง นอกจากนั้น ยังขอให้แสดงหลักฐานทาง กัมพูชา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีปฏิเสธการรับเข้าเมืองจาก
การเงินซึ่งผู้ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐเคนยาไม่จ�าเป็นต้อง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง ส�าหรับ
แสดงหลักฐานดังกล่าว ผู้เสียหายทั้งสองเห็นว่าตนถูกเหยียด ผู้โดยสารที่มีสัญชาติและถือหนังสือเดินทางประเทศต่าง ๆ
เชื้อชาติ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงปรึกษาทนายความ แต่ส�าหรับผู้โดยสารที่มีสัญชาติและถือหนังสือเดินทางที่ออก
และประสงค์ที่จะยื่นค�าร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน โดยประเทศเคนยานั้น คู่มือมิได้ระบุว่าต้องตรวจสอบเอกสาร
แห่งชาติและนายกรัฐมนตรี ผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง การเดินทางและปัจจัยในการด�ารงชีพ แต่ด้วยความเข้าใจ
ไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ผู้ร้องจึงขอทราบช่องทางการร้องเรียน คลาดเคลื่อนของพนักงานสายการบินเกี่ยวกับสัญชาติ
และข้อคิดเห็นของ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ของผู้โดยสารโดยเข้าใจว่าผู้โดยสารที่มีสัญชาติและถือหนังสือ
จากการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 19 เดินทางที่ออกโดยประเทศเคนยาอยู่ในกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องผ่าน
ตุลาคม 2562 ผู้ร้องได้เขียนข่าวลงเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่งสรุป การตรวจสอบเอกสารการเดินทางและปัจจัยในการด�ารงชีพ
ได้ว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ผู้เสียหายทั้งสองถูกปฏิเสธ จึงท�าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกร้องได้ทบทวน
ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินของผู้ถูกร้อง เที่ยวบินจากกรุงเทพมหานคร รายละเอียดในคู่มือการปฏิบัติงานโดยยกเลิกการตรวจสอบ
ไปยังกรุงพนมเปญ โดยพนักงานของผู้ถูกร้องขอให้ผู้เสียหาย ปัจจัยในการด�ารงชีพส�าหรับผู้โดยสารที่เดินทางไปยังประเทศ
ทั้งสองเท่านั้นแสดงเงิน จ�านวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ กัมพูชาทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2562 และได้ติดต่อกลับ
60,400 บาท) แต่ผู้เสียหายทั้งสองไม่มีเงินจ�านวนดังกล่าว ไปยังผู้เสียหายเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้เสียหายที่ 1 ได้แสดงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือกับพนักงาน และแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเป็นกรณี
ของผู้ถูกร้องว่าตนไม่จ�าเป็นต้องแสดงจ�านวนเงินดังกล่าว และ ที่ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาแล้ว
ได้สอบถามสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจ�าประเทศไทย
ซึ่งแนะน�าว่าให้ใช้เพียงรายการเดินบัญชี แผนการเดินทาง และ
หลักฐานการจองเที่ยวบินกลับเท่านั้นแต่พนักงานของผู้ถูกร้อง
ได้ด�าเนินการส่งผู้เสียหายทั้งสองกลับไปยังสายการบิน