Page 95 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 95

094






                  กรณีที่ 2   ขอให้ตรวจสอบและขอความช่วยเหลือ เพื่อท�าความจริงให้ปรากฏและเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบ
            บุคคลต่างด้าว                                     โดยทั่วกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 กระทรวงการ
                  มีผู้ร้องเรียนทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวอ้างว่า  ต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการด�าเนินการ สรุปได้ว่า

            นางสาว ด. เป็นชาวกะเหรี่ยง ถูกจ�าหน่ายชื่อจากทะเบียนบ้าน กระทรวงการต่างประเทศให้ความส�าคัญกับภารกิจในการ
            ด้วย ท.ร.97 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ คุ้มครองและดูแลคนไทยในต่างประเทศโดยที่ผ่านมาได้ติดตาม
            ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะ และให้ความช่วยเหลือนายวันเฉลิมตามช่องทางการทูตอย่าง
            ชั่วคราว เป็นผู้ต้องกักอยู่ในสถานกักตัวของส�านักงานตรวจ  เต็มก�าลัง หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป ซึ่งคณะ

            คนเข้าเมืองและไม่มีญาติ จึงขอความช่วยเหลือ        กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือแสดงความขอบคุณ
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาแล้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความร่วมมือและให้ความ
            เห็นว่า การส่งตัวบุคคลต่างด้าวกลับภูมิล�าเนา มีระเบียบและ  ส�าคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกรณีดังกล่าว
            หลักเกณฑ์ก�าหนดไว้แล้ว และเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหน้าที่และ

            อ�านาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ได้รับ       กรณีที่ 4 ขอความช่วยเหลือให้สามีซึ่งรับราชการ
            เรื่องไว้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยได้มอบ ต�ารวจตระเวนชายแดนย้ายมาประจ�าการใกล้บ้านเพื่อช่วยดูแล
            หมายให้เจ้าหน้าที่ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน  ครอบครัวที่เดือดร้อน
            แห่งชาติ เข้าพบและหารือ พ.ต.อ. หฤษฎ์ เอกอุรุ ผู้ก�ากับการ 3      ผู้ร้องขอความช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้กับ

            กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ส�านักงานตรวจคนเข้าเมือง  ครอบครัวเพื่อให้สามีซึ่งปฏิบัติงานที่กองร้อยต�ารวจตระเวน
            เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน   ชายแดน อ�าเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ได้ย้ายมาประจ�าการ
            โดยแจ้งนางสาว ด. และญาติทราบข้อมูลการส่งตัว จนนางสาว ด.   ที่สถานีต�ารวจภูธรในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากมีเหตุผล
            ได้เดินทางกลับภูมิล�าเนาที่อ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี และความจ�าเป็นที่ต้องดูแลบิดา มารดา และน้องสาวที่ต้องไป

            เรียบร้อยแล้ว                                     พบแพทย์อยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับครอบครัวของผู้ร้องมีภาระ
                                                              หนี้สินในการประกอบอาชีพและส่งบุตรเรียน โดยเฉพาะ
                  กรณีที่ 3 กรณีการหายตัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์  การขาดทุนจากการเลี้ยงโคนมที่เกิดจากโรคระบาด
                  เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ได้มีสื่อมวลชนเสนอ    คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ประสาน

            ข่าวว่านายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อดีตนักเคลื่อนไหวและ  การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยส่งเรื่องให้ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ
            ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยได้ถูกอุ้มตัวจากหน้าที่พักประเภท พิจารณาด�าเนินการตามหน้าที่และอ�านาจ โดยส�านักงานต�ารวจ
            คอนโดมิเนียมในกรุงพนมเปญ โดยถูกบังคับขึ้นรถแล้วขับหายไป  แห่งชาติแจ้งว่า ได้อนุมัติเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายให้สามีของ
            เหตุเกิดในตอนเย็นขณะที่นายวันเฉลิมเดินอยู่หน้าที่พัก ซึ่งขณะ ผู้ร้องย้ายไปปฏิบัติงานในต�าแหน่งผู้บังคับหมู่ กองก�ากับการ 4

            เกิดเหตุก�าลังคุยโทรศัพท์กับพี่สาว เสียงสุดท้ายของนายวันเฉลิม กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการต�ารวจตระเวนชายแดน
            ที่พี่สาว ได้ยินผ่านโทรศัพท์ คือ “โอ๊ย หายใจไม่ออก” ก่อนสาย ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มีก�าหนด 1 ปี เพื่อบรรเทาความ
            โทรศัพท์จะถูกตัดไป แต่ในขณะนั้นเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุและ  เดือดร้อน โดยได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบแล้ว ซึ่งผู้ร้องขอขอบคุณ
            นายวันเฉลิมบาดเจ็บ พี่สาวจึงพยายามโทรศัพท์กลับไปอีก และแจ้งว่าการย้ายของสามีผู้ร้องในครั้งนี้เป็นการช่วยบรรเทา

            ประมาณครึ่งชั่วโมง รวมถึงติดต่อเพื่อนของนายวันเฉลิมให้ช่วย ความเดือดร้อนของครอบครัวเป็นอย่างมาก
            ตรวจสอบสถานที่พัก จึงทราบว่านายวันเฉลิมหายไป กรณีการ
            หายตัวของนายวันเฉลิม ได้รับความสนใจจากองค์กรเอกชน       กรณีที่ 5 ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ถูกเลิกจ้างในสถานการณ์
            ทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน รวมทั้งหน่วยงาน  การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

            ในองค์การสหประชาชาติ                              โดยไม่เป็นธรรมและกระทบต่อเด็กแรกเกิด
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ขอความ            ผู้ร้องร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
            ร่วมมือให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาให้หน่วยงาน  ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อแก้ไขปัญหาคนงานที่ได้
            ในสังกัดด�าเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือพยานหลักฐาน  รับผลกระทบจากการปลดออกและเลิกจ้างในช่วงสถานการณ์
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100