Page 96 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 96

รายงานผลการปฎิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  095
                                                                                   ประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. 2563



            การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  นัดหมายไกล่เกลี่ย อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่
            โดยผู้ประกอบการบางแห่งฉวยโอกาสเลิกจ้างแรงงานหญิง  รับเรื่องร้องเรียนได้สอบถามไปยังผู้เสียหายทราบข้อมูลว่า
            ที่ตั้งครรภ์ จ�านวน 10 คน และคนพิการอีก 1 คน โดยที่ลูกจ้าง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ได้ท�าการไกล่เกลี่ยกับนายจ้างแล้ว

            บางคนถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย บางราย  มีข้อสรุปว่านายจ้างยอมจ่ายเงินร้อยละ 55 ของยอดเงินทั้งหมด
            ถูกบังคับให้เขียนใบลาออก โดยอ้างว่าบริษัทไม่สามารถด�าเนิน ตามที่พนักงานตรวจแรงงานมีค�าสั่ง จึงได้ตกลงยุติข้อพิพาท
            ธุรกิจได้และมีความจ�าเป็นต้องลดอัตราก�าลังการผลิตส่งผล นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและ
            ให้ต้องเลิกจ้าง ซึ่งลูกจ้างบางคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและเป็น  ความมั่นคงของมนุษย์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้เสียหายรายอื่นอีก

            เสาหลักของครอบครัว เมื่อถูกเลิกจ้างท�าให้ต้องตกอยู่ในสภาวะ อนึ่ง จากการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเด็นตาม
            ตึงเครียดเป็นอย่างมาก เช่น ไม่มีเงินไปตรวจครรภ์ มีภาระต้อง เรื่องร้องเรียนดังกล่าว กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้
            เลี้ยงดูบุตรคนอื่น ๆ และมารดาที่แก่ชรา ค่าใช้จ่ายที่จ�าเป็น แจ้งผลการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาตามหน้าที่และอ�านาจแล้ว
            ประจ�าวัน เป็นต้น ประกอบกับเมื่อถูกเลิกจ้างแล้ว ต้องประสบ

            กับความยากล�าบากในการหางานใหม่  เนื่องจากการมีภาวะ      กรณีที่ 6 ขอให้ส�ารวจและจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคล
            ตั้งครรภ์ อีกทั้งความตึงเครียด กดดัน และความกังวลจะส่งผล  ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน                   บทที่
            โดยตรงต่อลูกในครรภ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่ง      ผู้ร้องทั้งห้าได้จัดท�าโครงการคลินิกกฎหมายชาวบ้าน   3
            ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติคุ้มครอง โดยมีเป้าหมายส�าคัญในการสร้างพื้นที่เรียนรู้และให้ความ

            แรงงาน พ.ศ. 2541 อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิการคุ้มครองความ ช่วยเหลือทางกฎหมายเกี่ยวกับปัญหาสิทธิและสถานะบุคคล
            เป็นมารดา ฉบับที่ 183 และหลักการชี้แนะเรื่องสิทธิมนุษยชน  โดยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ร้องทั้งห้าได้ลงพื้นที่ส�ารวจ
            ส�าหรับธุรกิจ (UN Guiding Principle On Business and Human   ที่อ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พบว่า มีเด็กหญิงที่ไม่มีหลักฐาน
            Rights: UNGPs) ผู้ร้องจึงขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน  แสดงตน ไม่มีเอกสารรับรองการเกิดในราชอาณาจักรไทย

            แห่งชาติ ด�าเนินการตรวจสอบและเสนอแนะมาตรการหรือ กล่าวคือ เป็นบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยมีพยานเอกสารและ
            แนวทางในการแก้ไขปัญหา รวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับความ พยานบุคคลว่า เด็กหญิงรายดังกล่าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร
            เสียหายป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อสถาบันครอบครัวต่อไป  ไทยมาตั้งแต่ปี 2549 (ระยะเวลาประมาณ 5 ปี) ณ บ้านธารหทัย
                  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพิจารณาประเด็น  ต�าบลป่าหวาย อ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จึงขอให้ส�ารวจ

            ผู้เสียหาย ทั้ง 5 ราย แล้วเห็นว่าเป็นกรณีที่ผู้เสียหายถูกนายจ้าง และจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
            บังคับเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ไม่จ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้าง หรือ  เพื่อออกบัตรประจ�าตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน อนึ่ง
            จ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างไม่เป็นไปตามที่กฎหมายก�าหนด   ผู้ร้องทั้งห้าได้ร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมการปกครอง รองอธิบดี
            จึงได้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยส่งเรื่องในประเด็นนี้  กรมการปกครองฝ่ายทะเบียนและสารสนเทศ ผู้ว่าราชการ

            ให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเพื่อพิจารณาด�าเนินการ จังหวัดราชบุรี และนายอ�าเภอสวนผึ้งด้วยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่าง
            ตามหน้าที่และอ�านาจ                               การพิจารณาด�าเนินการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                  ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแจ้งว่า ได้ จึงประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยส่งเรื่องไปยังส�านัก
            ด�าเนินการตรวจสอบและด�าเนินการตามหน้าที่และอ�านาจแล้ว  ทะเบียนอ�าเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พิจารณาด�าเนินการ

            โดยพนักงานตรวจแรงงาน ส�านักงานสวัสดิการและคุ้มครอง ตามหน้าที่และอ�านาจต่อไป โดยอ�าเภอสวนผึ้งได้นัดหมาย
            แรงงานจังหวัดระยองได้รับค�าร้อง (คร.7) ของผู้เสียหาย และ ให้ผู้ร้องไปให้ถ้อยค�าประกอบการสอบสวนเกี่ยวกับการส�ารวจ
            ได้มีค�าสั่งพนักงานตรวจแรงงานให้บริษัทนายจ้างจ่ายเงิน  และจัดท�าทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
            ค่าชดเชย ค่าตอบแทนระหว่างหยุดกิจการชั่วคราว ค่าจ้าง ณ ที่ว่าการอ�าเภอสวนผึ้ง กลุ่มงานทะเบียนและบัตร เมื่อวันที่ 7

            ในวันหยุดพักผ่อนประจ�าปีให้กับผู้ร้อง แต่นายจ้างได้ยื่นฟ้อง  สิงหาคม 2563 และอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นทะเบียนประวัติ
            เพิกถอนค�าสั่งพนักงานตรวจแรงงานต่อศาลแรงงานภาค 2  บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
            (สาขาระยอง) เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ศาลแรงงานก�าหนด
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101