Page 173 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง การประเมินข้อมูลพื้นฐานระดับชาติด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน : นโยบาย กฎหมาย และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของประเทศ
P. 173

4.2.8 สิทธิประชากรกลุ่มเฉพาะ

                       ปัญหาสำคัญของประชากรกลุ่มเฉพาะ คือ การถูกเลือกปฏิบัติบนฐานของเพศ สภาพร่างกาย และ
               อายุ โดยมีสาเหตุสำคัญจากอคติ และการขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง เช่น คนพิการทำงานไม่ได้ หรือการติดเชื้อ

               HIV เป็นสิ่งน่ารังเกียจ แม้ว่าการทานยาต้านเชื้อไวรัสสามารถทำให้ใช้ชีวิตปกติได้ เป็นต้น รวมไปถึงผู้มีเพศ

               สภาพที่ไม่อยู่ในกรอบหญิงชายแบบอนุรักษ์นิยม

                       เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว กลไกคุ้มครองและเยียวยาปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติบนฐานของเพศ

               สภาพร่างกาย และอายุ ควรจะมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น



                       4.2.9 ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน

                       ประเด็นปัญหาในส่วนของผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน สามารถสรุปได้ดังนี้


                       ประเด็นปัญหาแรก คือ มีการฟ้อง SLAPP จำนวนมาก ทั้งยังมีแนวโน้มจะเกิดการฟ้องมากขึ้นเรื่อย ๆ
               เพราะไม่มีกลไกคุ้มครองการเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เหมาะสม เนื่องจากยังไม่มีการให้นิยามคำว่านัก

               ปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจน เป็นเหตุให้ไม่มีความคุ้มครองทางกฎหมายเฉกเช่นผู้แจ้งเบาะแสหรือพยาน ทั้งนี้
               ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะได้มีการปรับแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อป้องกันการแกล้งฟ้องใน

               คดีอาญาแล้ว หากแต่ยังขึ้นกับดุลพินิจของศาลเองอยู่ การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจึงยังคงช่องว่างที่

               ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น ค่าใช้จ่ายในการสู้คดี และอาจจะขาดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อ
               สาธารณะเพราะต้องใช้เวลาไปกับการสู้คดี ซึ่งใช้เวลานานที่จะยุติ


                       ปัญหาที่สอง คือ นอกเหนือจากการแกล้งฟ้องแล้ว นักปกป้องสิทธิมนุษยชนมีแนวโน้มที่จะถูกข่มขู่
               การทำร้ายร่างกาย หรือกรณีอื่น ๆ ได้ เช่น การซ้อมทรมานและการอุ้มหายได้ มีนักรณรงค์และนักเคลื่อนไหว

               จำนวนหนึ่งที่ประสบกับปัญหานี้ และเป็นปัญหาที่น่ากังวลเพราะไม่มีมาตรการที่เหมาะสมและเพียงพอในการ

               คุ้มครอง ซึ่งทำให้การเลือกเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญกับความเสี่ยง อันนำไปสู่ผลให้สังคมถูกเอา
               รัดเอาเปรียบและเกิดความเหลื่อมล้ำขยายขึ้นเป็นวงกว้าง ดังนั้น การมีอยู่ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจึงมี

               ความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะช่วยในการอุดช่องว่างปัญหาเหล่านี้ เพราะลำพังภาครัฐซึ่งมีทรัพยากรอย่างจำกัด

               อาจจะไม่สามารถดูแลได้ทุก ๆ เรื่องอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพได้

                       ด้วยเหตุนี้ กลไกการคุ้มครองทางด้านสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจของภาครัฐที่ควรจะเป็น
               สำหรับผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนมีด้วยกันหลายประการ แยกพิจารณาได้ดังนี้


                       1. เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการ
               คุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (International Convention on the Protection of All

               Persons from Enforced Disappearance หรือ ICPPED)

                       2. จัดให้มีความร่วมมือกับกลไกสิทธิมนุษยชนทั้งสหประชาชาติและระดับภูมิภาค โดยสนับสนุนให้

               รัฐบาลร่วมมือกับกลไกสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและภูมิภาค รวมถึงผู้เสนอรายงานพิเศษของ


                                                           113
   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178