Page 11 - อนุสัญญาว่าด้วยการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจ และการเข้าถึงความยุติธรรมในเรื่องสิ่งแวดล้อม: จัดทำขึ้น ณ เมืองออร์ฮูส ประเทศเดนมาร์ก วันที่ 25 มิถุนายน 2541
P. 11
9
6. ภาคีแต่ละฝ่ายจะสนับสนุนให้ผู้ด าเนินกิจกรรมที่มีผลกระทบอย่างมีนัยส าคัญต่อสิ่งแวดล้อมแจ้งให้สาธารณชน
ทราบอย่างสม่ าเสมอเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ผลกระทบของกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ ตามความเหมาะสมภายใต้กรอบ
ของการติดฉลากเชิงนิเวศโดยสมัครใจหรือแผนการตรวจสอบเชิงนิเวศ หรือโดยวิธีการอื่น ๆ
7. แต่ละฝ่ายจะต้อง
(ก) เผยแพร่ข้อเท็จจริงและการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เห็นว่าเกี่ยวข้องและมีความส าคัญในการจัดท า
ข้อเสนอนโยบายสิ่งแวดล้อมที่ส าคัญ
(ข) จัดพิมพ์หรือท าให้เข้าถึงได้ ส าหรับเอกสารอธิบายเกี่ยวกับการติดต่อกับสาธารณะในเรื่องที่อยู่ใน
ขอบเขตของอนุสัญญานี้ และ
(ค) จัดท าข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสมเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่สาธารณะหรือการให้บริการสาธารณะ
เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลทุกระดับ
8. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องพัฒนากลไกเพื่อให้แน่ใจว่ามีข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เพียงพอต่อสาธารณะในลักษณะที่ช่วยให้
ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีข้อมูล
9. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องด าเนินการเพื่อสร้างความก้าวหน้า โดยค านึงถึงกระบวนการระหว่างประเทศที่เหมาะสม
ระบบรายการมลพิษหรือลงทะเบียนบนฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างที่สอดคล้องกันทั่วประเทศ และจัดท าบนระบบ
คอมพิวเตอร์และเข้าถึงได้โดยสาธารณะ ที่รวบรวมผ่านการรายงานที่เป็นมาตรฐาน ระบบดังกล่าวอาจรวมถึงการ
น าเข้า เผยแพร่ และถ่ายโอนสาร และผลิตภัณฑ์ใด ๆ รวมถึงการใช้น้ า พลังงาน และทรัพยากร จากช่วงกิจกรรมที่
ระบุไปจนถึงสื่อสิ่งแวดล้อม และไปยังสถานที่บ าบัดและก าจัดในสถานที่และนอกสถานที่
10. ไม่มีข้อความใดในบทความนี้ที่อาจกระทบกระเทือนสิทธิของภาคีในการปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลด้าน
สิ่งแวดล้อมบางอย่างตามข้อ 4 วรรค 3 และ 4
ข้อ 6
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจเกี่ยวกับกิจกรรมเฉพาะทาง
1. แต่ละฝ่าย
(ก) จะใช้บทบัญญัติของข้อก าหนดนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ด าเนินกิจกรรมที่เสนอ
ตามรายการในภาคผนวก 1 หรือไม่
(ข) จะใช้บทบัญญัติของข้อก าหนดนี้ตามกฎหมายของประเทศในการตัดสินใจเกี่ยวกับกิจกรรมที่เสนอซึ่ง
ไม่ได้ระบุไว้ในภาคผนวก 1 ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยส าคัญต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อจุดประสงค์นี้ ภาคีจะต้อง
พิจารณาว่ากิจกรรมที่เสนอนั้นอยู่ภายใต้ข้อก าหนดเหล่านี้หรือไม่ และ
(ค) อาจตัดสินใจเป็นรายกรณีไป หากก าหนดไว้ภายใต้กฎหมายภายในประเทศ ว่าจะไม่น าบทบัญญัติของ
บทความนี้ไปใช้กับกิจกรรมที่เสนอเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศ หากภาคีเห็นว่าการบังคับใช้ดังกล่าวจะ
ส่งผลเสียต่อ วัตถุประสงค์เหล่านี้
2. ประชาชนที่เกี่ยวข้องจะได้รับแจ้ง ไม่ว่าจะโดยการประกาศต่อสาธารณะหรือเป็นรายบุคคลตามความเหมาะสม
ในช่วงต้นของกระบวนการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อม และในลักษณะที่เพียงพอ ทันเวลา และมีประสิทธิภาพ ใน
เรื่อง