Page 66 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 66
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
สนช. ได้มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ คณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณี
ปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายฯ ถูกกระท�ทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ๕๗
และให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ต่อไป นายกรัฐมนตรีได้มีค�าสั่งส�านักนายกรัฐมนตรีที่
๑๓๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และ
อนึ่ง ภายหลังจากที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ ค�าสั่งส�านักนายกรัฐมนตรีที่ ๑๙๘/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๘
เผยแพร่ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม สิงหาคม ๒๕๖๐ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราว
การทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายฯ ฉบับส�าหรับ ร้องทุกข์กรณีถูกกระท�าทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ
การรับฟังความคิดเห็นแล้ว ได้มีการแสดงความห่วง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน บทที่ ๒
กังวลจากภาคประชาสังคมบางส่วนต่อการพิจารณาว่า กรรมการ และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ มีความล่าช้า รวม ๑๖ แห่งร่วมเป็นกรรมการ มีอ�านาจหน้าที่รับเรื่องราว
หลักการบางประการถูกตัดออกไปจากร่างพระราชบัญญัติ ร้องทุกข์ ตรวจสอบติดตาม เยียวยา รวมถึงป้องกัน
ฉบับเดิมที่เคยเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ การทรมาน และการบังคับบุคคลให้หายสาบสูญขึ้น ทั้งนี้
สนช. ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถคุ้มครองสิทธิและ เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองสิทธิให้กับประชาชน
เสรีภาพของบุคคล ตามหลักการอันเป็นสาระส�าคัญ อีกทางหนึ่งในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติป้องกัน
ของอนุสัญญา CAT ได้อย่างเต็มที่ เช่น ๑) หลัก และปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคล
๕๑
การไม่สามารถผ่อนปรนได้ ๒) หลักการห้ามผลักดัน สูญหายฯ ยังไม่มีผลบังคับใช้ ภายใต้คณะกรรมการ
๕๒
กลับไปเผชิญอันตราย ๓) การห้ามน�าค�าให้การ ดังกล่าว ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จ�านวน ๔ ด้าน
๕๓
ที่ได้มาจากการทรมานมาใช้ ๔) หลักประกัน ดังนี้ ๑) คณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบ
๕๔
เพื่อการป้องกัน และ ๕) บทนิยามของการกระท�าทรมาน กรณีถูกกระท�าทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ๕๘ การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
๕๕
และการบังคับบุคคลให้สูญหาย เป็นต้น มีอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธาน ท�าหน้าที่
๕๖
๕๑ จาก กก.นักนิติศาสตร์สากล-แอมเนสตี้ฯ ผิดหวัง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน-อุ้มหายไทย, โดย ประชาไท, ๒๕๖๑. สืบค้นจาก https://prachatai.com/journal/2018/03/75883
๕๒ หลักการไม่สามารถผ่อนปรนได้ คือการห้ามการกระท�าที่เป็นการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายโดยเด็ดขาด แม้ในขณะที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (CAT ข้อที่ ๒).
๕๓ การห้ามส่งบุคคลกลับไปยังสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงว่าบุคคลนั้นจะถูกทรมาน (CAT ข้อ ๓).
๕๔ การห้ามน�าค�าให้การหรือข้อมูลใด ๆ ที่ได้จากการทรมานมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการด�าเนินคดี (CAT ข้อ ๑๕).
๕๕ การก�าหนดให้ทนายความและญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ถูกควบคุมตัวได้ รวมทั้งได้รับการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับชะตากรรมและสถานที่ควบคุมตัวอย่างต่อเนื่อง (CPED ข้อ ๑๗ และ ๑๘).
๕๖ องค์ประกอบส�าคัญในบทนิยามของการกระท�าให้บุคคลสูญหายและการทรมานตามร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่ครบถ้วนและสอดคล้องตาม CAT และ CPED.
๕๗ จาก หนังสือกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ที่ ยธ ๐๔๑๗/๓๙๓๑ ลงวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เรื่อง ข้อมูลเพื่อประกอบการจัดท�ารายงานผลการประเมินสถานการณ์
ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ประจ�าปี ๒๕๖๑.
๕๘ ค�าสั่งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระท�าทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ ที่ ๑/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐.
65