Page 71 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 71
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
๑) แม้ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม ทรมานและการบังคับให้สูญหายโดยเฉพาะในชั้นการจับกุม
การทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายฯ ที่ สนช. และการควบคุมตัวยังคงปรากฏอยู่อย่างต่อเนื่อง และเป็นที่
มีมติรับหลักการ มีหลักการและสาระส�าคัญตามอนุสัญญา น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกร้องเรียนโดยส่วนใหญ่
CAT แล้วก็ตาม แต่ในการด�าเนินการตามรัฐธรรมนูญฯ มักเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร สถานการณ์เช่นนี้จึงพอสะท้อนได้ว่า
มาตรา ๗๗ กระทรวงยุติธรรมได้ยกร่างพระราชบัญญัติ เจ้าหน้าที่ในฝ่ายทหารยังขาดความรู้ความเข้าใจ
ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้ ในการปฏิบัติงานที่ต้องค�านึงผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพ
บุคคลสูญหายฯ ขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเป็นการเฉพาะ ในเนื้อตัวร่างกายของบุคคล และการจัดการอบรมให้ความรู้แก่
ซึ่งมีการตัดหลักการส�าคัญบางประการตามอนุสัญญา เจ้าหน้าที่อาจยังไม่เพียงพอหรือไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร
CAT ออกไป โดยเฉพาะหลักการไม่สามารถผ่อนปรนได้
และหลักการห้ามผลักดันกลับไปเผชิญอันตราย ข้อเสนอแนะ
รวมทั้งเมื่อ ครม. เสนอผลการด�าเนินการดังกล่าวต่อ ๑. ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกัน
สนช. ได้ปรากฏความเห็นของกระทรวงยุติธรรม และปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหายฯ
ให้ถอดหลักการส�าคัญดังกล่าวออกไปจากร่าง สนช. ควรค�านึงถึงความสอดคล้องกับอนุสัญญา CAT
พระราชบัญญัติฯ ซึ่งจะมีผลท�าให้ร่างพระราชบัญญัติฯ โดยเฉพาะการบัญญัติรับรองหลักการไม่สามารถผ่อนปรนได้
๖๙
ไม่สอดคล้องกับหลักการส�าคัญของอนุสัญญา CAT และหลักการห้ามผลักดันกลับไปเผชิญอันตราย เพื่อประกัน
หากกฎหมายภายใต้แนวคิดดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ว่าหลักการของอนุสัญญา CAT จะมีผลในทางปฏิบัติ
บุคคลจะไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการถูกกระท�า
ทรมานและการบังคับสูญหายอย่างเพียงพอ ๒. ในระหว่างที่มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกัน
และปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคล
๒) จากข้อมูลเรื่องร้องเรียนต่อ กสม. ที่ยังคงมีกรณีกล่าวอ้างว่า สูญหายฯ กระทรวงยุติธรรมควรด�าเนินการสร้างความเข้าใจ
บุคคลถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐกระท�าการทรมาน อาจประเมินได้ว่า ต่อสังคมและหน่วยงานอื่นของรัฐ ถึงความส�าคัญและ
การกระท�าของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจน�าไปสู่การกระท�า ความจ�าเป็นในการป้องกันและปราบปรามการทรมาน
๖๙ จาก ส�าเนาหนังสือกระทรวงยุติธรรม ด่วนที่สุด ที่ ยธ ๐๔๐๕/๔๔๗๙ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๑ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติ [เกี่ยวกับรายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ
และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระท�าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ)] และการด�าเนินการตามมาตรา ๗๗ วรรคสอง
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ...., โดย กระทรวงยุติธรรม, ๒๕๖๑, กรุงเทพฯ:
กระทรวงยุติธรรม อ้างถึงใน หนังสือส�านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๓/๔๐๔๔๖ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ สืบค้นจาก http://library.senate.go.th/document/
mSubject/Ext84/84162_0003.PDF
70