Page 577 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 577

553


                   บุคคลใดก็ตามที่เคยต๎องโทษจําคุกจะถูกตัดสิทธิการทํางานนั้นๆ เป็นการที่กฎหมายปฏิบัติตํอบุคคล

                   เหมือนกัน โดยไมํคํานึงถึงความแตกตํางของโทษที่แตํละคนได๎รับวําบุคคลที่ถูกจําคุกเพราะปฏิเสธทหารนั้น
                   มีลักษณะและสาเหตุที่แตกตํางจากอาชญากรอื่นๆ เนื่องจากบุคคลเหลํานี้ถูกจําคุกเพราะการแสดงออกหรือ

                   การอ๎างสิทธิที่เกี่ยวพันกับเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติคือ ความเชื่อ ศาสนา เป็นต๎น


                           ตัวอยํางคดีที่ตัดสินตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนสหภาพยุโรป อันแสดงถึงประเด็นการเลือกปฏิบัติ
                   ตํอบุคคลที่อ๎างสิทธิปฏิเสธการเกณฑ์ทหาร ในขั้นตอนภายหลังหรือผลสืบเนื่อง คือ Thlimmenos  v.

                   Greece ซึ่งเป็นกรณีที่ผู๎ร๎องถูกจําคุกเกี่ยวกับการปฏิเสธการเป็นทหารโดยพ๎นโทษแล๎ว ตํอมาสมัครงานแตํ
                   ถูกปฏิเสธการจ๎างเนื่องจากเหตุที่เคยต๎องโทษอาญา ศาลสูงของกรีซตัดสินวําบทบัญญัติตามกฎหมายภายใน
                   ที่กําหนดคุณสมบัติในการเป็นข๎าราชการพลเรือนวําจะต๎องไมํได๎รับโทษจําคุก ดังนั้นกรณีของผู๎ร๎องซึ่งจะ
                   สมัครในตําแหนํงด๎านบัญชีก็ต๎องอยูํภายใต๎กฎหมายดังกลําวด๎วย


                           ผู๎ร๎องจึงนําคดีสูํศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ซึ่งประเด็นสําคัญมิได๎อยูํที่วําการถูกลงโทษตามกฎหมาย
                   ทหารนั้นเป็นการละเมิดสิทธิหรือไมํ แตํอยูํที่ประเด็นวํา กฎหมายที่จํากัดสิทธิในการทํางานด๎วยเหตุที่ตนถูก
                   ลงโทษ ไมํได๎จําแนกความแตกตํางระหวํางสาเหตุของโทษหรือฐานความผิด ซึ่งผู๎ร๎องเห็นวํากรณีโทษที่ตน

                   ได๎รับสืบเนื่องจากความเชื่อทางศาสนา (ผู๎ร๎องถูกจําคุกเพราะปฏิเสธทหารตามหลักความเชื่อศาสนา
                   Jehovah‖s Witness)


                           ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปพิจารณาตาม ข๎อ 9 และ ข๎อ 14 ขออนุสัญญาสิทธิมนุษยชนยุโรป แล๎ว
                   อธิบายวํา “สิทธิที่จะไมํถูกเลือกปฏิบัติของผู๎ร๎อง ถูกละเมิดเมื่อรัฐละเลยไมํปฏิบัติแตกตํางกันตํอบุคคลใน
                   สถานการณ์ที่แตกตํางกัน” ศาลเห็นวํา รัฐมีผลประโยชน์โดยชอบด๎วยกฎหมายในการกําหนดคุณสมบัติโดย

                   มิให๎ผู๎ถูกลงโทษจําคุกมีสิทธิทํางานบางอยําง แตํต๎องอยูํภายใต๎หลักความสมเหตุผลและได๎สัดสํวนด๎วย ใน
                   กรณีนี้ผู๎ร๎องจะสมัครทํางานในตําแหนํงบัญชี และได๎รับโทษจากความผิดที่ปฏิเสธทหารด๎วยเหตุความเชื่อ
                   ทางศาสนา ซึ่งมีลักษณะแตกตํางจากอาชญากรที่ถูกลงโทษในความผิดอื่นๆ การถูกลงโทษดังกลําวมิได๎
                   เกี่ยวพันกับคุณสมบัติของงานที่ประสงค์จะทํา ดังนั้น การกีดกันผู๎สมัครงานด๎วยเหตุที่เคยรับโทษจําคุกจาก

                   การปฏิเสธทหารจึงไมํสมเหตุผล (Not Justified)

                           ดังนั้นจะเห็นได๎วํา การปฏิเสธการเกณฑ์ทหารนั้น สํงผลให๎เกิดการเลือกปฏิบัติขึ้นได๎อีกในขั้นตอน

                   หลังจากการปฏิเสธการเกณฑ์ทหารแล๎ว โดยเฉพาะในประเทศที่มีการกําหนดโทษอาญาสําหรับผู๎ปฏิเสธ
                   และมีการกําหนดคุณสมบัติการทํางานที่ไมํรับผู๎สมัครซึ่งเคยรับโทษจําคุก โดยรวมบุคคลที่ถูกจําคุกเพราะ
                   อ๎างสิทธิปฏิเสธทหารด๎วยเหตุความเชื่อ ศาสนา เข๎าไปด๎วย ในประเด็นนี้หากพิจารณากฎหมายไทยที่
                   เกี่ยวข๎องกับการกําหนดคุณสมบัติการทํางานจะพบวํา ในกฎหมายที่กําหนดคุณสมบัติเกี่ยวกับ “เคยต๎องคํา

                   พิพากษาให๎ลงโทษจําคุก” นั้น มิได๎จําแนกความแตกตํางระหวํางผู๎ได๎รับโทษจากการแสดงออกหรือคัดค๎าน
                   การเกณฑ์ทหารด๎วยเหตุความเชื่อ ศาสนา (บางกรณีมีการจําแนกความแตกตํางเฉพาะโทษอาญาที่กระทํา
                   โดย “เจตนา”  กับโทษที่กระทํา “โดยประมาท”  เทํานั้น) ทําให๎บุคคลที่ปฏิเสธการเกณฑ์ทหารด๎วยเหตุ
   572   573   574   575   576   577   578   579   580   581   582