Page 574 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 574

550


                   การเกณฑ์ทหารของไทยไมํมีการกําหนดให๎มีทางเลือกในการรับใช๎ชาติรูปแบบอื่น (Alternative national

                   service) จึงไมํมีประเด็นการเลือกปฏิบัติระหวํางการเป็นทหารกับการรับใช๎ชาติรูปแบบอื่น


                           กรณีที่ 3 ประเด็นเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ เชื้อชาติ การศึกษา ในมิติของการ
                   เกณฑ์ทหาร


                           ในบริบทของการเกณฑ์ทหารโดยบังคับนั้น พบวํามีประเด็นเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุแหํง

                   เพศ ศาสนา การศึกษา เชํน


                           - ประเด็นความเทําเทียมกันระหวํางชายและหญิง จากการจัดประชุมกลุํมยํอย ผู๎ให๎ข๎อมูลรายหนึ่ง

                   ให๎ความเห็นวํา “กฎหมายเกณฑ์ทหารท าให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันและเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง เป็นการมอง
                   ว่าผู้หญิงมีความด้อยกว่าผู้ชาย ทั้งที่ผู้หญิงสามารถเป็นทหารอาชีพได้ สามารถเป็นนักศึกษาวิชาทหารได้

                   ปัจจุบันมีกฎหมายให้สิทธิเท่าเทียมกันต่อผู้หญิงหลายฉบับแต่กฎหมายเกณฑ์ทหารยังไม่ก าหนดหน้าที่ของ

                   หญิงให้เท่าเทียมกับชาย นอกจากนี้ การเกณฑ์ทหารหญิงก็ไม่จ าต้องให้ฝึกเหมือนกับผู้ชายทุกประการ โดย
                   อาจให้ท าหน้าที่อื่นๆในกองทัพที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของทหารหญิงก็ได้ แต่การก าหนดหลักตัดสิทธิ

                   ผู้หญิงตั้งแต่แรกนั้นเป็นการไม่เท่าเทียมกัน”


                           ตามกฎหมายไทยพบวํา กฎหมายที่เกี่ยวข๎องคือ พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 โดย

                   มาตรา 7 วางหลักไว๎วํา “ชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน๎าที่รับราชการทหารด๎วยตนเองทุกคน”
                   จะเห็นได๎วํา กฎหมายนี้กําหนดหน๎าที่เฉพาะ “ชาย”  เทํานั้น โดยหลักแล๎วจึงเป็นการปฏิบัติที่แตกตํางกัน

                   (Distinction / Differencial Treatment) ด๎วยเหตุแหํงเพศ อยํางไรก็ตาม จะต๎องพิจารณาตํอไปวํา การ
                   ปฏิบัติที่แตกตํางกันนี้เป็นการ “เลือกปฏิบัติ”  (Discrimination)  อันขัดตํอหลัก “ความเทําเทียมกัน”

                   หรือไมํ ทั้งนี้เหตุผลหลักในการสนับสนุนการปฏิบัติที่แตกตํางกันนี้คือ ชายมีสภาพรํางกายที่แตกตํางจาก
                   หญิง เหตุผลดังกลําวนี้อยูํบนพื้นฐานแนวคิดวํา หญิงมีสภาพรํางกายที่แข็งแรงน๎อยกวําชาย ในขณะที่

                   ปัจจุบันมีทหารอาชีพซึ่งเป็นหญิง รวมทั้งในการศึกษาวิชาทหารก็ให๎สิทธิแกํนักศึกษาหญิงเข๎าศึกษาด๎วย

                   นอกจากนี้ยังไมํได๎คํานึงถึงการปฏิบัติหน๎าที่ทางการทหารซึ่งแม๎วํามีการเกณฑ์ทหารซึ่งเป็นหญิงแล๎วก็อาจ
                   มอบหมายหน๎าที่หรือภารกิจแตกตํางกันตามสภาพรํางกายได๎ ซึ่งในระดับนี้ก็เป็นการปฏิบัติที่แตกตํางกันแตํ

                   มีเหตุผลที่สมควร


                           ในประเด็นความเทําเทียมกันระหวํางเพศในมิติของการเกณฑ์ทหารนี้ หากเปรียบเทียบกับ
                   สหรัฐอเมริกาแล๎วพบวํา มีแนวคิดและการดําเนินการทางกฎหมายในการสร๎างความเทําเทียมกันระหวําง

                   เพศ จะเห็นได๎จาก ในชํวงต๎นปี 2016 มีการเสนอรํางกฎหมายเรียกวํา “Draft America‖s Daughters Act
   569   570   571   572   573   574   575   576   577   578   579