Page 573 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 573

549


                           แม๎รัฐสมาชิกไมํมีความผูกพันตามกฎหมายในอันจะต๎องกําหนดให๎มีทางเลือกอื่นในการรับใช๎ชาติ
                   นอกจากการเกณฑ์ทหาร แตํคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ก็เน๎นย้ําวํา สิทธิในการมีทางเลือก

                   ดังกลําวได๎รับการรับรองตาม ข๎อ 8 ของ ICCPR  ดังจะเห็นได๎จาก Resolution  1998/77  ซึ่งย้ําเตือนรัฐ
                   สมาชิกวํา “ในกรณีที่รัฐนั้นมีการเกณฑ์ทหารโดยบังคับ คณะกรรมการฯแนะนําวํารัฐควรจัดให๎มีการรับใช๎
                   ชาติรูปแบบอื่นเป็นทางเลือกให๎กับผู๎ปฏิเสธการเกณฑ์ทหารด๎วยเหตุมโนสํานึก โดยการรับใช๎ชาติทางเลือก
                   ดังกลําวควรสอดคล๎องกับความเชื่อ คุณลักษณะการเป็นพลเรือนที่ไมํฝักใฝุสงครามและการสู๎รบ และไมํมี

                   ลักษณะของการลงโทษ”

                           นอกจากนี้ แม๎รัฐจะกําหนดให๎มีทางเลือกอื่นนอกจากการเป็นทหาร แตํทางเลือกนั้นต๎องไมํมี

                   ลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือมีลักษณะ “ลงโทษ”  (Punitive)  เชํน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
                                                               607
                   สหประชาชาติพิจารณากรณีของรัสเซียในปี 2009  แล๎วเห็นวํา ทางเลือกอื่นในการรับใช๎ชาตินั้น มี
                   ลักษณะเป็นการลงโทษ เนื่องจากต๎องทํางานในสถานที่อื่นนอกจากภูมิลําเนา ได๎รับเงินเดือนต่ํากวําการ
                   ทํางานในองค์กรสังคมอื่นๆ รวมทั้งมีข๎อจํากัดสิทธิในการเดินทางของบุคคล”


                           สําหรับทางเลือกในการรับใช๎ชาติรูปแบบอื่นนอกจากการเกณฑ์ทหาร อาจมีลักษณะเป็นการเลือก

                   ปฏิบัติเมื่อเปรียบเทียบกับการเกณฑ์ทหาร เชํน กําหนดเวลายาวนานกวํา ในประเด็นนี้คณะกรรมการสิทธิ
                   มนุษยชนฯ ใช๎หลักการพิจารณาวํา ความแตกตํางกันนั้นมีเหตุผลสมควรหรือเป็นการ “ลงโทษ” เชํน กรณี

                   Järvinen v. Finland คณะกรรมการฯ เห็นวํา การรับใช๎ชาติทางเลือกซึ่งมีระยะยาวนานกวําการเป็นทหาร

                   สองเทํา ไมํมีลักษณะเป็นการลงโทษ และไมํเป็นกรณีที่ปราศจากเหตุผลสมควร อยํางไรก็ตาม ตํอมาคณะ
                                                                             608
                   กรรมการฯ มีแนววินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป เชํน กรณี Foin v. France  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํง
                   สหประชาชาติ เห็นวํา “กฎหมายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับใช๎ชาติทางเลือกอาจแตกตํางกับการเกณฑ์
                   ทหาร เชํน ระยะเวลาที่ยาวนานกวํา โดยไมํเป็นการเลือกปฏิบัติหากอยูํบนพื้นฐานของเกณฑ์และ

                   วัตถุประสงค์ที่สมเหตุผล เชํน ธรรมชาติและลักษณะของการทํางานนั้น ความจําเป็นในการฝึกอบรมสําหรับ
                   การทํางานดังกลําว กรณีกฎหมายฝรั่งเศสที่กําหนดให๎การบริการสังคมอันเป็นการรับใช๎ชาติทางเลือกซึ่งมี

                   ระยะเวลา 24 เดือน ในขณะที่การเป็นทหารมีเวลา 12 เดือนซึ่งแตกตํางกัน โดยเหตุผลเพียงเพราะเพื่อการ

                   ทดสอบความตั้งใจของบุคคล จึงเห็นวําไมํมีเหตุผลสมควร นอกจากนี้ ในกรณีคล๎ายคลึงกัน คณะกรรมการฯ
                   เห็นวําการรับใช๎ชาติทางเลือกที่ต๎องใช๎เวลา ยาวนานกวําการเป็นทหาร 2 เทําและ 1.75 เทํา นั้นมีลักษณะ

                                             609
                   เป็นการ “ลงโทษ”  (Punitive)   ในประเด็นนี้เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายไทยพบวํา กฎหมายเกี่ยวกับ





                   607  CCPR/C/RUS/CO/6, para. 23
                   608  Communication No. 666/1995, Views adopted on 9 November 1999
                   609  Reply to Recommendation 1518 (2001) of the Parliamentary Assembly on the exercise of the right
                   to conscientious objection to military service in Council of Europe member States (Doc. 9379)
   568   569   570   571   572   573   574   575   576   577   578