Page 522 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 522
498
แนวทางที่สอง หากพิจารณาวํา ฝุายที่ปฏิเสธการให๎บริการหรือจําหนํายสินค๎ากับผู๎ที่พาตุ๏กตาลูก
เทพเข๎ามานั้น มีเหตุปฏิเสธบนพื้นฐานของความเชื่อ ลัทธิ หรือ ศาสนาของตนเชํนกัน บุคคลที่ปฏิเสธก็ควร
มีสิทธิในการปฏิเสธได๎ ดังจะเทียบเคียงได๎กับ กฎหมายลายลักษณ์อักษรของหลายมลรัฐในสหรัฐอเมริกา ที่
วางหลักคุ๎มครองบุคคลในการที่จะสามารถปฏิเสธการให๎บริการบุคคลอื่นด๎วยเหตุความเชื่อทางศาสนาของ
515
ตนเองได๎ ดังนั้นหากกฎหมายบังคับห๎ามปฏิเสธบริการก็จะเป็นการขัดตํอความเชื่อของผู๎ให๎บริการ
นอกจากนี้ ยังต๎องพิจารณาประเด็นที่วํา การให๎เข๎าใช๎สถานที่หรือบริการอยํางใดอยํางหนึ่งนั้น เกี่ยวข๎องกับ
หลักกฎหมายเรื่องกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ด๎วยซึ่งบุคคลผู๎เป็นเจ๎าของอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิอนุญาตให๎
บุคคลอื่นเข๎ามาในสถานที่ของตนได๎ หากมีการตรากฎหมายห๎ามปฏิเสธบริการก็จะสํงผลกระทบตํอ
กรรมสิทธิ์ของผู๎ให๎บริการ นอกจากนี้การจํากัดสิทธิในการปฏิเสธสินค๎าหรือบริการยังสํงผลกระทบตํอหลัก
เสรีภาพในการทําสัญญาตามประมวลกฎหมายแพํงและพาณิชย์ด๎วย
จะเห็นได๎วํา กรณีตุ๏กตาลูกเทพเกี่ยวข๎องกับการเลือกปฏิบัติถึงสองมิติ กลําวคือ มิติของการสื่อสาร
ในลักษณะ “Hate Speech” ซึ่งต๎องสร๎างความสมดุลระหวํางเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการ
คุ๎มครองผู๎ได๎รับผลกระทบจาก “Hate Speech” และ มิติของการปฏิเสธสินค๎าหรือบริการ ซึ่งต๎องสร๎าง
ความสมดุลระหวํางความเชื่อของทั้งสองฝุายรวมทั้งหลักกรรมสิทธิและเสรีภาพในการทําสัญญาด๎วย
อาจสรุปได๎วํา กรณีตุ๏กตาลูกเทพนั้น เป็นกรณีหนึ่งของพฤติกรรมในสังคมซึ่งสะท๎อนให๎เห็นสภาพ
ปัญหาของการเลือกปฏิบัติในกรณีของการสื่อสารที่ทําให๎เกิดความเกลียดชัง (Hate Speech) โดยเฉพาะ
ปัญหาของกฎหมายไทยที่ยังไมํมีหลักการโดยเฉพาะสําหรับการสร๎างความสมดุลระหวํางเสรีภาพในการ
แสดงความคิดเห็น (Free Speech) และ การสื่อสารที่ทําให๎เกิดความเกลียดชัง (Hate Speech) ในขณะที่
พันธกรณีระหวํางประเทศและกฎหมายของหลายประเทศได๎มีหลักการเพื่อรองรับปัญหานี้ จากการศึกษาใน
สํวนนี้จึงนําไปสูํข๎อเสนอแนะของการวิจัยเพื่อการปรับปรุงกฎหมายไทยที่เกี่ยวข๎องตํอไป
4.16 ปัญหาขอบเขตของกฎหมายในการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติในภาคเอกชน
515 เชํน รัฐบาลของรัฐ Mississippi ได๎ผํานกฎหมาย “คุ๎มครองเสรีภาพในความเชื่อจากการเลือกปฏิบัติโดยรัฐบาล"
(Protecting Freedom of Conscience from Government Discrimination Act) ประเด็นนี้ได๎วิเคราะห์ไว๎ตํางหาก