Page 516 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 516

492


                           4.15.12.2 วิเคราะห์ปัญหาของปรากฏการณ์ตุ๊กตาลูกเทพ ภายใต้กรอบ “Hate  Speech”
                   และ เสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น


                           ตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนนั้น ปรากฏการณ์ตุ๏กตาลูกเทพมีความเกี่ยวข๎องกับสิทธิมนุษยชน
                   หลายประการ เชํน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และ เหตุแหํงการเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะด๎านความ

                   เชื่อ ลัทธิ ศาสนา ในแงํของผู๎ไมํเห็นด๎วยกับผู๎นิยมตุ๏กตาลูกเทพ ก็อ๎างเสรีภาพในการสื่อสารและแสดงความ
                   คิดเห็น ในแงํของผู๎นิยมตุ๏กตาลูกเทพ ก็อ๎างวํา การนําพาตุ๏กตาลูกเทพออกสูํสาธารณะ เป็นการแสดงออกซึ่ง
                   ความเชื่อของตนอยํางหนึ่ง นอกจากนี้ ในระดับของการปฏิเสธสินค๎าหรือบริการตํอผู๎นิยมตุ๏กตาลูกเทพนั้น
                   ในแงํหนึ่งก็มองได๎วําเป็นการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุแหํงความเชื่อ


                            สําหรับในบริบทของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้น ประเด็นสําคัญคือการหาจุดสมดุล
                   ระหวํางเสรีภาพในการสื่อสารของฝุายที่แสดงความไมํเห็นด๎วยกับฝุายผู๎นิยมตุ๏กตาลูกเทพซึ่งอยูํในขอบเขต

                   ของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น กับ การสื่อสารแสดงความเกลียดชังที่เกินขอบเขตของเสรีภาพนี้อันมี
                   ลักษณะของ “Hate Speech” ที่ขัดตํอกฎหมายสิทธิมนุษยชน โดยผู๎วิจัยจะได๎แยกพิจารณาเป็นสองกรณี


                           กรณีแรก การสื่อสารความเกลียดชังที่อยูํในขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความเห็น

                           โดยหลักแล๎วเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือ “Freedom  of  Speech”  นั้น มิได๎จํากัด

                   เฉพาะการแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกเทํานั้น แตํครอบคลุมถึงการแสดงความคิดเห็นในแงํมุมตํางๆ ทั้ง
                   เห็นด๎วย ไมํเห็นด๎วย ความชื่นชอบ ความไมํพึงพอใจ หรือแม๎แตํความเกลียดชัง การที่รัฐจะตรากฎหมายมา
                   จํากัดเสรีภาพในการสื่อสารและแสดงความคิดเห็นนั้นอาจทําได๎แตํเหตุที่จะนํามาจํากัดก็จะต๎องมีน้ําหนัก

                   เพียงพอด๎วย ตัวอยํางของการที่รัฐมีความพยายามตรากฎหมายมาจํากัดเสรีภาพในการสื่อสารและแสดง
                   ความคิดเห็นโดยการอ๎างเหตุ “Hate Speech” นั้น พบวําศาลในสหรัฐอเมริกาให๎น้ําหนักกับเสรีภาพในการ
                   แสดงความคิดเห็นที่ได๎รับการคุ๎มครองตามรัฐธรรมนูญ (First Amendment) มากกวําการจํากัดการสื่อสาร
                   ที่แสดงความเกลียดชัง กลําวคือ โดยหลักแล๎ว การสื่อสารนั้นแม๎จะมีลักษณะของการสื่อสารความเกลียดชัง
                   ด๎วยเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ เชํน เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ก็ตาม ศาลก็ยังเห็นวํา รัฐไมํอาจตรากฎหมายเพื่อ

                   ควบคุมหรือจํากัดการสื่อสารลักษณะดังกลําวได๎ เนื่องจากการสื่อสารเหลํานี้เป็นสํวนหนึ่งของเสรีภาพใน
                   การแสดงความคิดเห็น อยํางไรก็ตาม รัฐอาจตรากฎหมายที่เป็นการจํากัดการสื่อสารดังกลําวได๎ หากการ
                   สื่อสารนั้นมีการ  “แสดงออก”  ด๎วยพฤติกรรมหรือลักษณะที่รุนแรงด๎วย แตํหากเป็นเพียงการสื่อสารที่มี

                   เนื้อหาเกี่ยวกับความไมํพอใจหรือเกลียดชัง ก็ยังคงทําได๎ภายใต๎หลักเสรีภาพของการสื่อสาร

                           ตัวอยํางคดีในสหรัฐอเมริกา เชํน ในปี 1992 หลังจากมีเหตุการณ์วัยรุํนเผาไม๎กางเขนบนสนามหญ๎า

                   ของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน รัฐบาลท๎องถิ่นตรากฎหมายมีเนื้อหาห๎ามการแสดงสัญลักษณ์ใดๆที่
                   กระตุ๎นหรือยั่วยุผู๎อื่นด๎วยเหตุแหํงเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา ความเชื่อ หรือเพศ ศาลตัดสินวํากฎหมายดังกลําว
                                                                         508
                   ขัดตํอรัฐธรรมนูญซึ่งคุ๎มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  ศาลอธิบายวํา การสื่อสารที่ทําให๎เกิด


                   508
                      คดี R.A.V. v. City of St. Paul (1992)
   511   512   513   514   515   516   517   518   519   520   521