Page 511 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 511
487
สําหรับกรณี “Hate crime” หากเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาจะพบวํามีกฎหมายกําหนด
ความผิดเป็นการเฉพาะ แตํตามกฎหมายไทยปัจจุบันไมํมีฐานความผิดเฉพาะ จึงต๎องพิจารณาฐานความผิด
เกี่ยวกับชีวิต รํางกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งไมํได๎จําแนกกรณี “Hate crime” ออกมาเป็นการ
เฉพาะ เชํน การทําร๎ายรํางกายซึ่งมีมูลเหตุจูงใจจากความเกลียดชังด๎านเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ ก็อยูํ
ภายใต๎ฐานความผิดเกี่ยวกับรํางกายทั่วไป จึงอาจกลําวได๎วําไทยยังไมํมีกฎหมายที่กําหนดความผิดทาง
อาญาเฉพาะสําหรับการสื่อสารความเกลียดชังอันนําไปสูํการกระทํารุนแรงทางกายภาพตํอชีวิตรํางกาย
หากเปรียบเทียบกับกฎหมายแคนาดาแล๎วพบวํา ประมวลกฎหมายอาญาของแคนาดากําหนด
ความผิดสําหรับ “Hate Speech” โดยเรียกวํา “Hate propaganda” หรือการโฆษณาชวนเชื่อให๎เกิด
ความเกลียดชัง ซึ่งมีการจําแนกลักษณะและชนิดของการกระทําออกไปเป็นหลายกรณียํอยอันมีระดับความ
รุนแรงที่แตกตํางกัน ส าหรับกรณีแรกคือ การยุยงส่งเสริมให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Advocating
genocide) จะเห็นได๎วําเกี่ยวข๎องกับการสื่อสารความเกลียดชังซึ่งนําไปสูํการกระทํารุนแรงทางกายภาพถึง
ขนาดการฆํา กรณีนี้เปรียบเทียบได๎กับ “Fighting words” หรือ “Hate crime” ของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้กฎหมายอาญาของแคนาดายังกําหนดความผิดกรณี การกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังต่อ
สาธารณะ (Public incitement of hatred) ซึ่งเป็นการกระตุ๎นยั่วยุที่อาจนําไปสูํความรุนแรงแตํยังไมํถึงขั้น
การฆําล๎างเผําพันธุ์ และความผิดกรณี การจงใจส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชัง (Wilful promotion of
hatred) ซึ่งเป็นความผิดแม๎วํายังไมํนําไปสูํการกระทํารุนแรงทางกายภาพ จะเห็นได๎วํากรณีนี้แสดงถึงการที่
กฎหมายแคนาดาให๎น้ําหนักกับการคุ๎มครองกลุํมที่ได๎รับผลกระทบจาก “Hate Speech” มากกวําการ
คุ๎มครองเสรีภาพในการสื่อสาร ซึ่งแตกตํางจากกฎหมายสหรัฐอเมริกาที่การแสดงความเกลียดชังยังคงทําได๎
หากไมํถึงขั้นนําไปสูํความรุนแรงทางกายภาพ อยํางไรก็ตาม ความผิดทั้ง 3 กรณีนั้นตํางมีองค์ประกอบรํวม
ที่สําคัญก็คือ จะต๎องเป็นการกระทําให๎เกิดความเกลียดชังตํอกลุํมที่ระบุเจาะจงได๎ ซึ่งก็คือกลุํมบุคคลที่
502
จําแนกตาม “เหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ” นั่นเอง ทั้งนี้ผู๎วิจัยมีข๎อสังเกตวํา “Hate Speech” ตาม
กฎหมายแคนาดาซึ่งมุํงตํอ “กลุํมที่ระบุเจาะจงได๎” นั้นมิได๎หมายถึงการระบุเจาะจงเป็นรายบุคคล
(Individual) ดังเชํนการเจาะจงตัวผู๎ถูกหมิ่นประมาทตามกฎหมายไทย เนื่องจากคําวํากลุํมที่ระบุเจาะจงได๎
ตามกฎหมายแคนาดานั้นหมายถึงจําแนกทั้งกลุํมออกจากกลุํมอื่นด๎วยเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ
หากเปรียบเทียบกฎหมายอาญาแคนาดากับประมวลกฎหมายอาญาของไทยแล๎วพบวํา
กฎหมายไทย มิได๎มีการกําหนดความผิดเฉพาะสําหรับการยุยงปลุกปั่นให๎เกิดความรุนแรงด๎วยเหตุแหํงการ
เลือกปฏิบัติ แตํมีฐานความผิดที่อาจเปรียบเทียบได๎คือ มาตรา 116 ดังกลําวข๎างต๎น อยํางไรก็ตาม หาก
พิจารณาองค์ประกอบของมาตรา 116 จะเห็นได๎วํา ครอบคลุมการกระตุ๎นหรือยุยงที่มีวัตถุประสงค์ทําให๎
เกิดความไมํสงบหรือการฝุาฝืนกฎหมาย แตํมิได๎ระบุถึงมูลเหตุจูงใจของการยุยงนั้นวําจะต๎องเกี่ยวข๎องกับ
กลุํมบุคคลที่ได๎รับการจําแนกตาม “เหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ” ดังเชํนกฎหมายอาญาของแคนาดา ดังนั้น
อาจกลําวได๎วํา มาตรา 116 เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์รักษาความสงบและความมั่นคงมากกวําการ
502 กลุํมที่ระบุเจาะจง (Identifiable group) ตามกฎหมายแคนาดาหมายถึง “กลุํมในสังคมที่สามารถจําแนกความแตกตําง
ได๎จาก สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ อายุ ความพิการทางจิตหรือกาย”