Page 503 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 503

479


                           จากคําพิพากษา 2 คดีดังกลําวข๎างต๎นในบริบทของการสื่อสารข๎อมูลแสดงความเกลียดชังออนไลน์
                   จะเห็นได๎วํา มีเนื้อหาแสดงความเกลียดชัง แตํไมํได๎อยูํในเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ (Discrimination

                   ground) โดยคดีแรกเหตุมาจาก แนวคิดตํอต๎านการทําแท๎ง คดีที่สองไมํแนํชัดในสาเหตุของความเกลียดชัง
                   แตํทั้ง 2 คดี จําเลยได๎แสดงออกถึงการสื่อสารในลักษณะความรุนแรงกลําวคือ การเผยแพรํข๎อมูลผู๎ที่ตน
                   เกลียดชัง และการขูํจะฆําผู๎ที่ตนเกลียดชัง ซึ่งมีลักษณะของความรุนแรงอยํางแท๎จริง (True thereat) มิใชํ
                   เป็นเพียงเนื้อหาของการสื่อสารที่แสดงถึงความเกลียดชัง


                           ดังนั้นจะเห็นได๎วํา การแสดงความเห็นที่มีลักษณะเกลียดชัง หรือ Hate  Speech  นั้นจะถูก
                   กฎหมายจํากัดได๎ตํอเมื่อมีลักษณะแสดงออกถึงการคุกคามอยํางแท๎จริง (True  threat) คือมีลักษณะการ

                   นําไปสูํความรุนแรงทางกายภาพ เชํน เด็กนักเรียนเขียนข๎อความในห๎องแชทวําเขาวางแผนจะฆํานักเรียนคน
                   อื่น กรณีนี้ การกลําวถ๎อยคํานั้น เป็นการเกินขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (Free Speech)
                   โดยเข๎าสูํขอบเขตที่กฎหมายควบคุมการสื่อสาร


                           สําหรับคดีที่เกี่ยวข๎องกับการสื่อสารแสดงความเกลียดชังอันมีมูลเหตุเกี่ยวข๎องกับเหตุแหํงการเลือก
                   ปฏิบัติ เชํน สีผิว เพศ รสนิยมทางเพศ จะเห็นได๎จากคดี Snyder  v.  Phelps  (2011) ซึ่งเป็นกรณีการถือ
                   ปูายประท๎วงเพื่อแสดงการคัดค๎านผู๎มีรสนิยมรักเพศเดียวกันในงานศพผู๎ตาย ซึ่งปูายดังกลําวมีข๎อความดู

                   หมิ่นเหยียดหยามผู๎รักเพศเดียวกัน ศาลสูงสุดตัดสินวํา แม๎วําเนื้อหาของปูายประท๎วงจะกํอให๎เกิดความเจ็บ
                   แค๎นใจ (outrageous)  แตํการถือปูายดังกลําวเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ได๎รับการคุ๎มครองตาม
                                                                       488
                             487
                   รัฐธรรมนูญ  หรือในคดี R.A.V. v. City of St. Paul (1992)  ที่กลําวมาแล๎วข๎างต๎น ซึ่งรัฐบาลท๎องถิ่น
                   ตรากฎหมายมีเนื้อหาห๎ามการแสดงสัญลักษณ์ใดๆที่กระตุ๎นหรือยั่วยุผู๎อื่นด๎วยเหตุแหํงเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา
                   ความเชื่อ หรือเพศ แตํศาลตัดสินวํากฎหมายดังกลําวขัดตํอรัฐธรรมนูญซึ่งคุ๎มครองเสรีภาพในการแสดง
                   ความคิดเห็น


                           ดังนั้นจากการวิเคราะห์คดีที่ศาลในสหรัฐอเมริกาตัดสินจะเห็นได๎วํา การสื่อสารที่กํอให๎เกิดความ
                   เกลียดชัง (Hate Speech) ซึ่งมีสาเหตุเกี่ยวข๎องกับเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ เชํน เชื้อชาติ สีผิว ศาสนา นั้น
                   โดยหลักแล๎วยังคงถือวําเป็นสํวนหนึ่งของ “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” (Freedom of Speech) ที่

                   ได๎รับการคุ๎มครองตามรัฐธรรมนูญ (First  amendment)  หรืออาจกลําวได๎วํา ศาลให๎น้ําหนักกับการ
                   คุ๎มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากกวําการจํากัดการสื่อสารที่แสดงความเกลียดชัง ด๎วยเหตุนี้
                   หากรัฐตรากฎหมายห๎ามการสื่อสารที่กํอให๎เกิดความเกลียดชัง ก็มีแนวโน๎มที่ศาลจะตัดสินวํากฎหมาย
                   ดังกลําวขัดตํอรัฐธรรมนูญ อยํางไรก็ตาม ศาลได๎วางหลัก การสื่อสารกํอความรุนแรง (Fighting words) ไว๎

                   เพื่อจํากัดการสื่อสารความเกลียดชังที่สํงผลถึงขนาดกระตุ๎นหรือยั่วยุให๎เกิดความรุนแรงทางกายภาพตามมา
                   ดังนั้น รัฐจึงสามารถตรากฎหมายห๎ามการสื่อสารเชํนนั้นได๎โดยไมํขัดตํอรัฐธรรมนูญ






                   487  Snyder v. Phelps, 562 U.S. 443 (2011)
                   488
                      R.A.V. v. City of St. Paul, 505 U.S. 377 (1992)
   498   499   500   501   502   503   504   505   506   507   508