Page 47 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 47

23


               ประโยชน๑ตอบแทนให๎มีสัดสํวนที่เหมาะสมแกํรายได๎และการพัฒนาท๎องถิ่น ซึ่งเป็นอ านาจของคณะกรรมการ

               มาตรฐานงานบริหารงานบุคคลสํวนท๎องถิ่น ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารบุคคลสํวนท๎องถิ่น พ.ศ. 2542
               มาตรา 30 มาตรา 31(1)” ดังนั้น คณะกรรมการฯ เห็นวํายังไมํมีการละเลยหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการ

               เลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรมแตํอยํางใด ด๎วยเหตุผลเดียวกันการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ๑ ต๎อง

               เป็นไปตามบัญชีท๎ายระเบียบส านักนายยกรัฐมนตรีวําด๎วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ๑อันเป็นที่
               เชิดชูยิ่งช๎างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ๑อันมีเกียรติยศยิ่งมุงกุฎไทย พ.ศ. 2536 (รายงานผลพิจารณาที่

               433/2557)


                       8) ค าร้องที่ 484/2552: กรณีพิพิธภัณฑ์ชีวิตของวัด พ.น าร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์มาจัดแสดง

                       ผู๎ร๎อง ร๎องเรียน วําวัด พ. ได๎จัดท าพิพิธภัณฑ๑ โดยการน ารํางของผู๎เสียชีวิตด๎วยโรคเอดส๑มาจัดแสดง
               พร๎อมทั้งเขียนชื่อ-นามสุกล ประวัติ อาชีพ ของผู๎ตาย ทั้งเป็นรํางที่ไมํสวมใสํเสื้อผ๎า แม๎จะมีการลงชื่อยินยอม

               ของของผู๎ตายและผู๎ร๎องกังวลวําอาจจะยินยอมโดยไมํมีความอิสระ เนื่องจากอยูํในสถานที่ดูแลของวัดเลยจ า
               ยอมต๎องยินยอม ทั้งนี้ผู๎ร๎องเห็นวําเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งตํอผู๎เสียชีวิตเองและญาติของผู๎เสียชีวิตด๎วย

               จึงให๎ตรวจสอบ

                       คณะกรรมการอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด๎านเด็ก สตรี ผู๎สูงอายุ และความเสมอ
               ภาคของบุคคล ตรวจสอบแล๎วเห็นวํา ประเด็นแรก การจัดแสดงพิพิธภัณฑ๑ชีวิตในวัด พ. เป็นการสตัฟฟ์

               (STUFF) ศพเสียชีวิตจากโรคเอดส๑ โดยเปิดเผยชื่อ-สกุล ประวัติ อาชีพ ภายถํายของผู๎เสียชีวิต และสภาพศพ

               ไมํได๎สวมใสํเสื้อผ๎าปกปิดกาย ลักษณะดังกลําวเป็นการละเมิดสิทธิในเกียรติยศ และชื่อเสียงของผู๎เสียชีวิต และ
               บุคคลในครอบครัว ตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 35 ถือวําเป็นการกระท าอันมิ

               บังควรตํอศพ ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ดังนั้นการจัดแสดงศพที่จะเป็นประโยชน๑แกํสาธารณะหรือมีคุณคําตํอ
               การให๎ความรู๎แกํสังคม จึงต๎องอยูํบนพื้นฐานที่จะต๎องไมํกระทบสิทธิในเรื่องข๎อมูลสํวนบุคคลของผู๎เสียชีวิตและ

               ครอบครัว แม๎ผู๎เสียชีวิตจะเจตนาบริจาครํางเพื่อวัตถุประสงค๑ดังกลําวก็ตาม คณะกรรมการฯ แนะน าให๎ท าการ
               แก๎ไขโดยปกปิดข๎อมูลสํวนบุคคลของศพด๎วย

                       ประเด็นที่สองวําผู๎เสียชีวิตได๎ยินยอมบริจาครํางหลังเสียชีวิตให๎กับมูลนิธิเพื่อวัตถุประสงค๑ให๎บุคคลอื่น

               ตระหนักถึงภัยโรคเอดส๑นั้น เป็นการแสดงเจตจ านงที่ไมํอยูํภายใต๎แรงกดดัน เมื่อพิจารณาจากข๎อเท็จจริง
               ปรากฏวําวัดไมํได๎ท าการขํมขูํ บังคับ ผู๎ปุวยเจตนาบริจาครํางเพื่อประโยชน๑ตํอวัดและพระพุทธศาสนา ดังนั้นจึง

               นําเชื่อวําวัด พ. ไมํได๎กดดัน บังคับ ผู๎เสียชีวิตให๎ยินยอมบริจาครําง ฉะนั้นการแสดงความยินยอมโดยสมัครใจ

               และอิสระถือวําเป็นไปตามวัตถุประสงค๑อันแท๎จริงอันเป็นฐานในหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย๑ที่มีสิทธิแสดง
               เจตจ านงตํางๆอยํางอิสระ

                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ เห็นควรให๎ยุติเรื่อง และแจ๎งความเห็นให๎มูลนิธิ ธ. เจ๎าของ
               โครงการ และวัด พ. พิจารณาด าเนินการตํอไป (รายงานผลพิจารณาที่ 624/2555)
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52