Page 401 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 401
377
ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา ศาลเรียกหลักการนี้วํา “คุณสมบัติอันเกี่ยวข้องกับงานนั้นโดยสุจริต”
(Bona Fide Occupational Qualification) แนวทางการบังคับใช๎กฎหมาย (Enforcement Guidance)
ของ EEOC วางหลักการพิจารณาความเกี่ยวข๎องกับงานและสอดคล๎องกับความจําเป็นทางธุรกิจ (Job
related and consistent with business necessity) เมื่อเปรียบเทียบกับแคนาดา พบวํา กฎหมายสิทธิ
มนุษยชนของมลรัฐ British Columbia Quebec Newfoundland and Labrador ใช๎คําวํา “ความผิด
ทางอาญาซึ่งไมํเกี่ยวข๎องกับการจ๎างแรงงาน” คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน Manitoba วางแนวทาง
พิจารณาวํา การถูกตัดสินโทษ (Conviction) นั้นมีความสัมพันธ์โดยสุจริตกับอาชีพหรือการจ๎างแรงงานนั้น
หรือไมํ (Bona Fide Relationship to the occupation or employment) โดยกําหนดเกณฑ์หรือปัจจัย
พิจารณา เชํน หากอุปนิสัยซึ่งเกี่ยวข๎องกับการถูกตัดสินโทษนั้นเกิดขึ้นซ้ําอีก อาจสํงผลกระทบตํอ
ความสามารถของนายจ๎างในการประกอบการอยํางปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (Employer‖s ability to
carry on its business safely and efficiently) สถานการณ์แวดล๎อมของความผิดนั้น เชํน อายุขณะ
กระทําผิด ระยะเวลาของการตัดสินโทษกับการตัดสินใจที่เกี่ยวกับการจ๎างแรงงาน สําหรับกฎหมาย
ออสเตรเลียนั้นพบวํา โดยหลักของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระดับรัฐบาลกลางแล๎ว แม๎มีข๎อยกเว๎นให๎กิจการ
สามารถนําคุณสมบัติเกี่ยวกับ “ประวัติอาชญากรรม” มาใช๎ในบริบทการจ๎างแรงงานได๎ แตํก็ต๎องอยูํภายใต๎
เงื่อนไข คุณสมบัติอันเป็นสาระส าคัญของงาน” (Inherent Requirement Exception) ซึ่งจากการตีความ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออสเตรเลียนั้นพบวํามีการตีความข๎อยกเว๎นดังกลําวอยํางจํากัด และ
พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความผิดอาญาตามประวัติของผู้สมัครงานหรือลูกจ้างกับสภาพงานนั้นๆเป็น
กรณีไป โดยหลีกเลี่ยงการสร๎างภาพเหมารวม (Stereotype) วําความผิดอาญาทุกอยํางเป็นคุณสมบัติ “ไมํ
เหมาะสมกับงานทุกประเภท” สําหรับกฎหมายระดับมลรัฐเชํน Northern Territory (Anti-
Discrimination Act 1992) และ Tasmanian (Anti-Discrimination Act 1998) มีการวางหลักห๎ามเลือก
ปฏิบัติตํอบุคคลด๎วยเหตุประวัติอาชญากรรมที่ “ไมํเกี่ยวข๎อง” (Irrelevant criminal record) จะเห็นได๎วํา
กฎหมายออสเตรเลียมีการนําหลักการพิจารณาความเกี่ยวข๎องระหวํางประวัติอาชญากรรมนั้นกับงาน
ประเภทนั้นๆ เป็นกรณีไป
หลัก “คุณสมบัติอันเป็นสาระส าคัญของงาน” นั้น กฎหมายของหลายประเทศได๎นําไปใช๎ในการ
พิจารณาคุณสมบัติอื่นที่เกี่ยวข๎องกับ “เหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ” เชํน เชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ ด๎วย
นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกับกฎหมายในระดับของสหภาพยุโรป ก็พบวํามีการนําหลักนี้มาใช๎เชํนกัน
กลําวคือ การกําหนดคุณสมบัติเกี่ยวกับการจ๎างงานที่มีผลเป็นการจํากัดสิทธิสําหรับคนบางกลุํมที่มีความ
เกี่ยวโยงกับเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ เชํน เชื้อชาติ ศาสนา เพศ ความพิการ โดยหลักแล๎วเป็นการเลือก
ปฏิบัติอันขัดตํอกฎหมายสหภาพยุโรป (กฎหมายเกี่ยวกับการวางกรอบสําหรับการปฏิบัติอยํางเทําเทียมกัน
321
ในการจ๎างแรงงานและการประกอบอาชีพ ) แตํกฎหมายนี้ยกเว๎นสําหรับกรณีที่ เหตุแหํงการเลือกปฏิบัติ
ดังกลําวเป็นคุณสมบัติอันจ าเป็นอย่างแท้จริงต่อการท างานหรืออาชีพนั้น (Genuine Occupational
321 Council Directive 2000/78/EC establishing a general framework for equal treatment in employment
and occupation