Page 393 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 393
369
ข๎อเท็จจริงสรุปได๎วํา ผู๎ร๎องมีประเด็นเรื่องการปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิและ
เสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีนายจ๎างนําข๎อมูลประวัติอาชญากรรมมาประกอบการพิจารณารับบรรจุ
เข๎าทํางานโดยไมํเป็นธรรม ผู๎ร๎องเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจําคุกในคดีลักทรัพย์ และรอลงอาญาไว๎ 2 ปี
ตํอมาผู๎ร๎องได๎สมัครเข๎าเป็นพนักงานขายรถยนต์บริษัทเอกชนแหํงหนึ่ง ผู๎ร๎องได๎ปฏิบัติงานผํานการทดลอง
งาน 3 เดือนและถูกตรวจประวัติอาชญากรรม ผลตรวจพบวําผู๎ร๎องมีประวัติถูกดําเนินคดีอาญา บริษัท
ปฏิเสธการบรรจุผู๎ร๎องเข๎าเป็นพนักงาน ผู๎ร๎องเห็นวํานายจ๎างควรพิจารณาจากผลงานการปฏิบัติงานและ
ความประพฤติของผู๎ร๎องเป็นหลัก ไมํควรนําทะเบียนประวัติอาชญากรรมในอดีตมาประกอบการพิจารณา
เทํากับไมํให๎โอกาสผู๎ที่เคยทําผิดได๎กลับเป็นคนดีและประกอบอาชีพที่มั่นคง ผู๎ร๎องมีความประสงค์ให๎
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ ตรวจสอบ การกระทําอันไมํเป็นธรรมโดยการนําทะเบียนประวัติ
อาชญากรรมมาประกอบการพิจารณาบรรจุพนักงาน
คณะอนุกรรมการด๎านกฎหมายและการปฏิบัติไมํเป็นธรรม พิจารณาแล๎วมีประเด็นที่ต๎องวินิจฉัยคือ
การที่บริษัทเอกชนนําข๎อมูลประวัติอาชญากรรมมาประกอบการพิจารณารับบุคคลเข๎าทํางานเป็นการ
กระทําหรือละเลยการกระทําอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไมํ คณะอนุกรรมการพิจารณาแล๎วเห็นวํา
ตามคําร๎องผู๎ร๎องถูกปฏิเสธไมํรับเข๎าทํางานเนื่องจากเคยต๎องโทษคดีอาญาที่ปรากฏในทะเบียนอาชญากรรม
จากการพิจารณาตามระเบียบสํานักงานตํารวจแหํงชาติวําด๎วยประมวลระเบียบการตํารวจไมํเกี่ยวกับคดี
ลักษณะที่ 12 การพิมพ์ลายนิ้วมือ (ฉบับที่2) พ.ศ.2556 ซึ่งเป็นระเบียบใหมํ กรณีของผู๎ร๎องก็ไมํเข๎าขํายที่จะ
ได๎รับการคัดแยกประวัติออกจากสารบบ และเมื่อพิจารณามาตรา 4 แหํงพระราชบัญญัติล๎างมลทินใน
วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนพรรษา 80 พรรษา พ.ศ. 2550 แล๎ว
นั้นกรณีผู๎ร๎องแม๎เป็นผู๎ที่ได๎รับการล๎างมลทินตามพระราชบัญญัติล๎างมลทินฯ พ.ศ. 2550 ก็มีผลแตํเพียงวําผู๎
ร๎องไมํเคยถูกลงโทษในข๎อหานั้นๆ มากํอนเทํานั้น
เนื่องจากบริษัทเอกชนมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณารับบุคคลเข๎าทํางานแตกตํางกันไป โดย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเสนอแนะเชิงนโยบายไปยังหนํวยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให๎เปิด
โอกาสให๎บุคคลที่เคยรับโทษโดยคําพิพากษาสามารถใช๎สิทธิในการรับสมัครรับราชการและสามารถกลับตัว
เป็นคนดีตํอไป ความเห็นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ เห็นวํา กรณีตามคําร๎องเป็นหลักเกณฑ์
และเงื่อนไขของบริษัทเอกชนในการรับสมัครบุคคลเข๎าทํางานที่แตกตํางกันโดยพิจารณาเป็นรายกรณี
อยํางไรก็ตาม แม๎แตํในหนํวยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจยังมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับ
สมัครบุคคลเข๎าทํางานแตกตํางกันไป โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเสนอแนะเชิงนโยบายไปยัง
หนํวยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให๎เปิดโอกาสให๎บุคคลที่เคยรับโทษโดยคําพิพากษาสามารถใช๎สิทธิในการ
รับสมัครรับราชการและสามารถกลับตัวเป็นคนดีเพื่อทําประโยชน์ให๎กับสังคมและประเทศชาติ และเพื่อให๎
เกิดความเป็นธรรมและมาตรฐานเดียวดันตํอไป นอกจากนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติยังมีการ
ประชุมรํวมกับหนํวยงานภาครัฐ เอกชน สมาคมตํางๆ และภาคสํวนที่เกี่ยวข๎องในการจัดนํารํองรับสมัคร
บุคคลที่เคยต๎องโทษคดีถึงที่สุดเข๎าทํางาน เพื่อเป็นหลักประกันให๎ผู๎ประกอบการ ในการรับบุคคลเคย
ต๎องโทษเข๎าทํางาน รวมทั้งการแก๎ไขปัญหาอยํางเป็นรูปธรรม จากกรณีบริษัทเอกชนไมํรับบรรจุบุคคลเข๎า