Page 391 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 391

367


                   โทษโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให๎จําคุก เว๎นแตํเป็นโทษสําหรับความผิดที่ได๎กระทําโดยประมาทหรือความผิด

                   ลหุโทษ แตํไมํมีการระบุข๎อยกเว๎นให๎มีการใช๎ดุลพินิจยกเว๎นลักษณะต๎องห๎ามดังกลําว จึงทําให๎ไมํมีลักษณะ
                   ของการยืดหยุํนในการบังคับใช๎กฎหมายซึ่งเป็นการปิดโอกาสผู๎เคยได๎รับโทษจําคุกดังกลําว



                           กลุ่มที่สอง : กฎหมายหรือระเบียบที่กําหนดให๎การต๎องคําพิพากษาถึงที่สุดให๎จําคุกเป็นคุณสมบัติ
                   และลักษณะต๎องห๎ามในการเข๎ารับราชการ  แตํมีข๎อยกเว๎นให๎หนํวยงานสามารถกําหนดหลักเกณฑ์เฉพาะ

                   หรือใช๎ดุลพินิจในการรับสมัครบุคคลผู๎มีลักษณะต๎องห๎ามเข๎ารับราชการได๎ เชํน พระราชบัญญัติระเบียบ
                   ข๎าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 พระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติ

                   ระเบียบข๎าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 พระราชบัญญัติตํารวจ

                   แหํงชาติ พ.ศ. 2557 พระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2553 พระราชบัญญัติระเบียบ
                   ข๎าราชการฝุายตุลาการ พ.ศ. 2543 เป็นต๎น กฎหมายกลุํมนี้จะมีการระบุข๎อยกเว๎นเกี่ยวกับกรณีของผู๎เคย

                   ได๎รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให๎จําคุก เว๎นแตํเป็นโทษสําหรับความผิดที่ได๎กระทําโดยประมาท
                   หรือความผิดลหุโทษ ซึ่งมีการพิจารณายกเว๎นให๎เป็นการเฉพาะรายหรือมีการประกาศยกเว๎นให๎เป็นการ

                   ทั่วไป โดยเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติและมติของคณะกรรมการ จึงเป็นการเปิดโอกาสให๎ผู๎ที่เคยได๎รับโทษ

                   จําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให๎จําคุกในการสมัครเข๎ารับราชการ


                           กลุ่มที่สาม :  กลุํมองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช

                   2550 และ กลุํมองค์กรที่มีการกําหนดระยะเวลาในการพ๎นโทษเป็นคุณสมบัติที่สามารถเข๎าดํารงตําแหนํงได๎
                   เชํน กรรมการเลือกตั้ง กรรมการปูองกันและปราบปรามทุจริตแหํงชาติ กรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติ

                   สมาชิกสภาพผู๎แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา รัฐมนตรี เป็นต๎น ซึ่งมีการกําหนดข๎อห๎ามบุคคลมิให๎สมัครหรือ
                   ได๎รับการเสนอชื่อ ในกรณีที่บุคคลนั้นเคยต๎องคําพิพากษาถึงที่สุดให๎จําคุกและได๎พ๎นโทษมายังไมํถึงห๎าปี เว๎น

                   แตํเป็นโทษสําหรับความผิดที่ได๎กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ซึ่งกลุํมนี้มีการกําหนดระยะเวลา
                   พ๎นโทษที่ชัดเจน จึงเป็นการเปิดโอกาสให๎กับผู๎ที่เคยได๎รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดในการเข๎าดํารง

                   ตําแหนํงดังกลําวได๎



                           สําหรับคําร๎องที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเคยพิจารณาในประเด็นการนําประวัติอาชญา
                   กรรมากําหนดคุณสมบัติเข๎ารับราชการ จะเห็นได๎จาก รายงานผลการพิจารณาที่ 43/2555 ข๎อเท็จจริง

                   สรุปได๎วําผู๎ร๎องเคยถูกดําเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและศาลพิพากษาให๎จําคุก 3 ปี 6 เดือน ปัจจุบันผู๎ร๎องพ๎น
                   โทษเป็นเวลากวํา 5 ปี ประกอบอาชีพสุจริต ต๎องการจะสอบเข๎ารับราชการ แตํถูกจํากัดสิทธิดังกลําว ผู๎ร๎อง

                   ต๎องการสอบเข๎ารับราชการสังกัดรัฐสภา แตํเมื่อโทรไปสอบถามได๎รับแจ๎งวํา ผู๎ร๎องไมํมีสิทธิสอบและหาก
                   สอบได๎คะแนนเต็มก็ไมํมีทางได๎เข๎ารับราชการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติมีคําสั่งที่ 5/2554

                   มอบหมายให๎คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด๎านกฎหมายและการปฏิบัติที่ไมํเป็น
   386   387   388   389   390   391   392   393   394   395   396