Page 382 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 382

358


                   มาตรการ หรือการปฏิบัติที่เป็นกลางกลําวคือใช๎กับบุคคลทุกคนเหมือนกัน แตํสํงผลกระทบให๎บุคคลบางคน
                                                                             295
                   เกิดความเสียเปรียบอยํางไมํได๎สัดสํวน ดังเชํนกรณีประวัติอาชญากรรม


                           อยํางไรก็ตาม กฎหมายมิได๎กําหนดนิยามความหมายของ “ประวัติอาชญากรรม”  (Criminal

                   Record) ไว๎โดยเฉพาะ แตํมีการตีความอยํางกว๎างไมํเฉพาะประวัติที่อยูํในความควบคุมของเจ๎าหน๎าที่ตํารวจ
                   แตํรวมถึงสถานการณ์แวดล๎อมของการถูกตัดสินโทษด๎วย (Circumstance of the Conviction) ดังนั้นจึง

                   ครอบคลุม การตั้งข๎อหา การสืบสวน การถูกตัดสินวํามีความผิดและได๎รับโทษ การถูกตัดสินวํามีความผิดแตํ
                   ได๎รับการยกเว๎นโทษ แม๎แตํกรณีที่บุคคลนั้นมิได๎มีประวัติอาชญากรรมจริงๆแตํถูกนายจ๎างเลือกปฏิบัติเพราะ

                   นายจ๎างเชื่อวําบุคคลนั้นมีประวัติอาชญากรรม (Imputed Criminal Record) สําหรับระดับมลรัฐนั้น แตํละ

                   มลรัฐยังอาจมีกฎหมายกําหนดรายละเอียดของประวัติอาชญากรในความหมายที่แตกตํางกันไป


                           การห๎ามเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุประวัติอาชญากรรมตามกฎหมายระดับรัฐบาลกลางของออสเตรเลีย
                   ฉบับนี้มีขอบเขตใช๎กับนายจ๎างและลูกจ๎างในทุกมลรัฐ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งนายจ๎างในองค์กร
                   ธุรกิจขนาดเล็ก สําหรับลูกจ๎างที่อยูํในขอบเขตการคุ๎มครองนั้น ครอบคลุมลูกจ๎างประจํา ลูกจ๎างชั่วคราว

                   รวมทั้งบุคคลที่ฝึกงานด๎วย อยํางไรก็ตามมีข๎อสังเกตวําการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุประวัติอาชญากรรมนี้ จํากัด
                   เฉพาะในมิติของการจ๎างแรงงานเทํานั้น นอกจากนี้กฎหมายมิได๎คุ๎มครองบุคคลจากการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุ
                   ประวัติอาชญากรรมที่จัดเก็บโดยองค์กรอื่น เชํน สมาคม สําหรับขอบเขตของ การจ๎างแรงงานและอาชีพ

                   (Employment  and  Occupation)  มีความหมายกว๎าง รวมถึง “การเข๎าถึงการฝึกงาน การทํางาน และ
                   การเข๎าสูํอาชีพใดอาชีพหนึ่ง และเงื่อนไขการจ๎างงาน” ดังนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมีอํานาจ
                   พิจารณาคําร๎องเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติในกรณีประวัติอาชญากรรม ในมิติตํางๆ เชํน การสรรหา
                   (Recruitment)  การฝึกงาน การเลื่อนขั้นเลื่อนตําแหนํง เงื่อนไขการทํางาน การเลิกจ๎าง การลงทะเบียน
                   ใบอนุญาตตํางๆที่เกี่ยวกับการทํางานหรือการประกอบอาชีพ


                           กฎหมายนี้กําหนดข๎อยกเว๎นทั่วไปสําหรับการเลือกปฏิบัติในการจ๎างแรงงาน เรียกวํา ข๎อยกเว๎น

                   เกี่ยวกับการกําหนด “คุณสมบัติอันเป็นสาระสําคัญสําหรับงานนั้น” (Inherent     Requirement

                   Exception) ในกรณีของประวัติอาชญากรรมนั้น หากผู๎สมัครหรือลูกจ๎างมีประวัติอาชญากรรมแล๎วจะสํงผล
                   ให๎ไมํสามารถปฏิบัติให๎เป็นไปตามเงื่อนไขอันเป็นสาระสําคัญและจําเป็นของงานนั้นๆ ดังนี้นายจ๎างสามารถ

                   นําปัจจัยเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมมาปฏิบัติตํอลูกจ๎างให๎แตกตํางไปได๎โดยไมํถือวําเป็นการเลือกปฏิบัติ
                   ข๎อยกเว๎นนี้ปรากฏในกฎหมายระดับมลรัฐด๎วยโดยอาจใช๎คําแตกตํางกันไป เชํน กฎหมายของ Tasmania

                   และ Northern Territory ใช๎คําวํา “ประวัติอาชญากรรมที่ไมํเกี่ยวข๎อง (Irrelevant Criminal Record)





                   295  International Labour Conference, Equality in Employment and Occupation: General Survey by the
                   Committee of Experts on the Application of Conventions and Recommendations ILO, Geneva, 1988
   377   378   379   380   381   382   383   384   385   386   387