Page 375 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 375

351


                   เจ็บปุวย ทุพพลภาพ ต๎องจํายแล๎วไมํน๎อยกวํา 3 เดือน และกรณีคลอดบุตรต๎องจํายแล๎วไมํน๎อยกวํา 7
                        271
                   เดือน

                           7. ผู๎อยูํในขํายรับบริการมากกวํา 1 ระบบ ซึ่งโดยใช๎สิทธิหลักของตนกํอน แล๎วจึงใช๎สิทธิในฐานะผู๎
                   อาศัยสิทธิเพิ่มเติมในสํวนที่เบิกจํายไมํได๎ ทางปฏิบัติพบวํา ทั้งผู๎ปุวยและโรงพยาบาลไมํทราบข๎อมูลดังกลําว

                   ทําให๎ผู๎ปุวยต๎องรับผิดชอบคําใช๎จํายสํวนนี้เอง หรือออกจากการรักษาพยาบาลกลางคัน เชํนเดียวกัน
                   ผู๎ประกันตนตามระบบประกันสังคมในฐานะผู๎มีสํวนได๎สํวนเสีย พึงได๎รับข๎อมูลขําวสารการบริหารงานฐานะ
                   การเงิน หรืออื่นใดของกองทุนประกันสังคมทางปฏิบัติพบวํา ผู๎ประกันตน รวมถึงผู๎ประกันตนที่เป็นแรงงาน
                   ข๎ามชาติกลับเข๎าไมํถึงข๎อมูลขําวสารดังกลําว


                           8. กลุํมผู๎ด๎อยโอกาสทางสังคม ได๎แกํผู๎ไมํมีสัญชาติไทย และไมํได๎รับการผํอนผันภายใต๎มติ
                   คณะรัฐมนตรีวําด๎วยการให๎สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด๎านสาธารณสุขแกํบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ

                   แรงงานนอกระบบ/แรงงานข๎ามชาติที่ไมํสามารถพิสูจน์สัญชาติ (งานภาคเกษตรกรรม ภาคประมง และงาน
                   บ๎าน) และเด็กเรํรํอนหรือผ้ําร๎ที่พักพิงซึ่งมักรักษาตัวเอง เนื่องจากชํองวํางทางกฎหมาย อุปสรรคด๎านภาษา
                   ไมํมีหรือเข๎าไมํถึงเครื่องมือสื่อสาร อคติของผู๎ใช๎บริการและบรรยากาศไมํเป็นมิตรของสถานพยาบาลเป็นต๎น





                   4.10 การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุ “ประวัติอาชญากรรม”




                           ประวัติอาชญากรรม (Criminal Record) เป็นข๎อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีความเกี่ยวข๎องกับพฤติกรรม
                   ตํางๆ ซึ่งกระทบสิทธิของเจ๎าของข๎อมูลนั้น เชํน การนําไปใช๎นําไปเผยแพรํในทางที่ทําให๎บุคคลนั้นเสื่อมเสีย

                   ชื่อเสียง การนําไปใช๎ประกอบการตัดสินใจเรื่องตํางๆ อันเกี่ยวข๎องกับความสัมพันธ์ของบุคคลนั้นกับบุคคล
                   หรือองค์กรอื่นในสังคม สําหรับในหัวข๎อนี้จะมีขอบเขตศึกษาปัญหาของการนําข๎อมูลดังกลําวมาเป็นปัจจัย
                   ในการตัดสินใจเกี่ยวกับผู๎มีประวัติอาชญากรรมในบริบทการทํางาน ซึ่งอาจประกอบด๎วยพฤติกรรมยํอย

                   หลายประการทั้งในชํวงกํอนการเกิดความสัมพันธ์ตามสัญญาจ๎างแรงงาน เชํน การกําหนดให๎ประวัติ
                   อาชญากรรมเป็นคุณสมบัติต๎องห๎ามสําหรับผู๎สมัครงาน การใช๎คําถามเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมใน
                   กระบวนการคัดเลือก เชํน การสัมภาษณ์หรือในใบสมัครงาน สําหรับชํวงหลังการเกิดความสัมพันธ์ตาม
                   สัญญาจ๎างแรงงานแล๎ว ก็มีการการนําเหตุประวัติอาชญากรรมมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจในเงื่อนไข

                   ตํางๆ เชํน การเลื่อนขั้น เลื่อนตําแหนํง การเลิกจ๎าง เป็นต๎น เมื่อพิจารณาในกรอบกฎหมายสิทธิมนุษยชน
                   จะเห็นได๎วํา บุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมได๎รับการปฏิบัติที่แตกตํางจากบุคคลอื่นเพียงเพราะเหตุที่ตนมี
                   ประวัติอาชญากรรม จึงนําไปสูํประเด็นคําถามวํา บุคคลที่ได๎รับการปฏิบัติแตกตํางจากบุคคลอื่นด๎วยเหตุนี้
                   จะได๎รับการคุ๎มครองตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการห๎ามเลือกปฏิบัติหรือไมํ อยํางไร โดยทั่วไป




                   271
                      พระราชบัญญัติประกันสังคมฯมาตรา 62 ,65 และ 69
   370   371   372   373   374   375   376   377   378   379   380