Page 370 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 370
346
เซนติเมตร จะไม่มีเลขแสดงส่วนสูงของผู้ถือบัตรก็ได้ ในกรณีดังกล่าวให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกหมายเหตุ
ไว้ในค าขอด้วย”
ดังนี้อาจพิจารณาได๎วํา ความเชื่อทางศาสนาเป็นเรื่องความเชื่อเฉพาะบุคคล และเป็นเสรีภาพขั้น
พื้นฐาน หากระบุเรื่องนี้ไว๎ในบัตรประจําตัวประชาชน อาจทําให๎เกิดปัญหาตํางๆในการปฏิบัติกับผู๎ถือบัตร
ประจําตัวประชาชน โดยมีมูลเหตุจูงใจจากประเด็นทางศาสนา ดังนั้น กฎหมายจึงไมํบังคับ โดยประชาชน
สามารถเลือกที่จะระบุหรือไมํก็ได๎ กฎเกณฑ์นี้จึงไมํมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุแหํงศาสนา ในทาง
กลับกันอาจพิจารณาได๎วําเป็นการลดปัญหาที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุศาสนาเนื่องจากเมื่อบุคคลที่
ติดตํอสัมพันธ์กันในมิติตํางๆไมํทราบถึงศาสนาที่ปรากฏบนบัตรประชาชน ก็เป็นการลดเงื่อนไขหรือโอกาส
ของการเลือกปฏิบัติหรือการสื่อสารความเกลียดชัง (Hate Speech) ลงได๎ อยํางไรก็ตามจากการสัมภาษณ์
พบปัญหาเชํน
1. เจ๎าหน๎าที่สํานักงานเขตบางแหํง ไมํถาม ผู๎มาขอทําบัตรประชาชน และไมํแจ๎งสิทธิวํา สามารถ
ระบุศาสนาหรือไมํก็ได๎ ทําให๎ประชาชนไมํทราบสิทธิของตน
สําหรับกรณีนี้โดยทั่วไปแล๎วยังไมํถือเป็นการเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้เมื่อพิจารณากฎหมายที่
เกี่ยวข๎องแล๎วพบวํา กฎหมายไมํได๎ระบุวําเจ๎าหน๎าที่ต๎องมีแจ๎งให๎ทราบถึงสิทธิดังกลําวแตํอยํางไร
2. การที่เจ๎าของบัตรประสงค์จะระบุศาสนา หรือลัทธิบางอยําง ลงไปบนบัตร ซึ่งไมํใชํศาสนา
กระแสหลัก กรณีเหลํานี้เป็นดุลพินิจของเจ๎าหน๎าที่ ซึ่งอาจเห็นชอบด๎วยหรือไมํเห็นด๎วย
ในประเด็นนี้ จะเห็นได๎วํา หากเจ๎าหน๎าที่ปฏิเสธไมํให๎ระบุศาสนาหรือลัทธิบางอยํางในบัตร
ประชาชน โดยเฉพาะอยํางยิ่งศาสนาหรือลัทธิที่มิใชํกระแสหลัก อาจเข๎าขํายการเลือกปฏิบัติด๎วยเหตุศาสนา
ความเชื่อ เนื่องจากปฏิบัติตํอบุคคลที่มีความเชื่อในศาสนาหรือลัทธินั้นอยํางแตกตํางกับศาสนาหรือลัทธิอื่น
จากการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายตํางประเทศ พบวํามีกรณีที่เกี่ยวกับการเรียกร๎องสิทธิในการ
ระบุศาสนาหรือลัทธิความเชื่อบางประการที่ไมํใชํกระแสหลักลงไปในเอกสารราชการเชํนใบขับขี่ โดยอาจ
ระบุในรูปของการสวมใสํอุปกรณ์หรือเครื่องแตํงกายตามความเชื่อนั้นในการถํายรูปติดบัตรดังกลําว เชํน
266
กรณีของความเชื่อ “พาสตาฟาเรียน” ซึ่งมีคดีที่เกิดขึ้น ในสหรัฐอเมริกา โดย Lindsay Miller ได๎สวม
266
Bobby Henderson เป็นผู๎กํอตั้งสํานักความคิดนี้ขึ้น สืบเนื่องมาจากการที่เขาคัดค๎านนโยบายของคณะกรรมการ
การศึกษาในรัฐ Kansas ที่ให๎บรรจุทฤษฎีอันหนึ่งในบทเรียนแทนทฤษฎีอีกอันหนึ่ง เขาโต๎แย๎งโดยนําเสนอแนวคิด "Flying
Spaghetti Monster" ที่มีสมมุติฐานวํา มีปีศาจ รูปรํางเหมือนสปากเกตตี้ผสมลูกชิ้นเนื้อ ชักใยมนุษย์ทุกคนอยูํ แทนที่คน
จะยืนบนโลกเพราะแรงดึงดูด เขาอ๎างวํา ทฤษฎีนี้ก็มีเหตุผลเชํนเดียวกับทฤษฎีที่คณะกรรมการนํามาบรรจุไว๎ในหลักสูตร
โรงเรียน เขาโพสต์เรื่องราวนี้บนเว็บไซต์ และได๎รับความนิยมจนเกิดเป็นลัทธิอยํางเป็นทางการชื่อ “Church of the
Flying Spaghetti Monster”