Page 358 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 358

334


                   และ การเรียนรู๎ หรือมีรํางกายพิการ หรือ ทุพพลภาพ หรือเด็กซึ่งไมํสามารถพึ่งตนเองได๎ หรือ ไมํมีผู๎ดูแล
                   หรือด๎อยโอกาส หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษให๎ได๎รับการศึกษาภาคบังคับด๎วยรูปแบบและวิธีการที่
                                                              243
                   เหมาะสม รวมทั้งการได๎รับสิ่งอํานวยความสะดวก   จะเห็นได๎วํา พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ
                   กําหนดหลักการเพื่อทําให๎บุคคลได๎มีโอกาสเข๎ารับการศึกษา ให๎สอดคล๎องกับพระราชบัญญัติการศึกษา
                   แหํงชาติซึ่งกําหนดให๎มีการศึกษาภาคบังคับไว๎ ดังนั้นพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับจึงเป็นกฎหมายที่
                   มุํงสํงเสริมให๎เกิดความเทําเทียมกันและความเสมอภาคทางการศึกษา


                           สําหรับการที่พระราชบัญญัติการศึกษาแหํงชาติ และ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ กําหนด
                   หลักการให๎จัดการศึกษาสําหรับบุคคลบางกลุํมเป็นพิเศษ มีลักษณะเป็นการให๎สิทธิพิเศษแกํบุคคลบาง
                       244
                   กลุํม  ซึ่งโดยหลักแล๎วเป็นการปฏิบัติที่แตกตํางกัน อยํางไรก็ตาม การจัดการศึกษาเป็นพิเศษนี้อาจเทียบ
                   ได๎กับมาตรการยืนยันสิทธิเชิงบวก (Affirmative Action) เพื่อให๎บุคคลที่มีลักษณะพิเศษดังกลําวได๎มีโอกาส
                   เข๎าถึงการศึกษาที่เทําเทียมกับบุคคลทั่วไป


                           นอกจากกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาทั้งสองฉบับดังกลําว ยังมีกฎหมายเฉพาะกรณีการศึกษา
                   สําหรับคนพิการ คือ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาส าหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ซึ่งวางหลักรับรอง
                                             245
                   สิทธิในการศึกษาของคนพิการ   โดย ให๎สถานศึกษาในทุกสังกัดจัดทําแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลให๎
                                                               246
                   สอดคล๎องกับความต๎องการจําเป็นพิเศษของคนพิการ  รวมทั้งให๎เงินอุดหนุนและความชํวยเหลือเป็นพิเศษ
                                                                                  247
                   จากรัฐแกํสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนที่จัดการศึกษาสําหรับคนพิการ  จะเห็นได๎วํา มาตรการตาม
                   กฎหมายฉบับนี้ปฏิบัติตํอคนพิการในมิติของการศึกษาแตกตํางจากบุคคลอื่น แตํการปฏิบัติแตกตํางกันนี้
                   เป็นไปเพื่อทําให๎คนพิการได๎มีโอกาสในการศึกษาเทําเทียมกับบุคคลทั่วไป จึงจัดเป็นมาตรการยืนยันสิทธิเชิง

                   บวก (Affirmative Action) ได๎เชํนกัน

                           หากเปรียบเทียบในมิติการศึกษากับกฎหมายสหรัฐอเมริกาที่นํามาวิเคราะห์ข๎างต๎นพบวํา มาตรการ

                   ที่ให๎สิทธิพิเศษ (Privilege) สําหรับบุคคลบางกลุํมอาจจัดเป็นมาตรการพิเศษซึ่งเป็นข๎อยกเว๎นจากการห๎าม

                   เลือกปฏิบัติได๎ แตํต๎องอยูํภายใต๎ขอบเขตที่ศาลกําหนดไว๎ หากเปรียบเทียบกับกรณีของไทย พบวํา หลักการ
                   ตามกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวกับการศึกษาข๎างต๎นก็อาจจัดเป็นมาตรการยืนยันสิทธิเชิงบวกหรือมาตรการ

                   พิเศษได๎เชํนกัน นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเคยพิจารณาวํา “..การก าหนดหลักเกณฑ์

                   การรับนักเรียนสังกัดส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ก าหนดให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่ไม่
                   น้อยกว่าร้อยละ 50 ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติและไม่กระทบต่อสิทธิของเด็กที่เข้าศึกษา ซึ่งการก าหนดรับ



                   243
                      พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 มาตรา 12
                   244
                      พระราชบัญญัติการศึกษาแหํงชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 วรรคสอง และวรรคสาม และ พระราชบัญญัติการศึกษาภาค
                   บังคับ พ.ศ. 2545 มาตรา 12 ดังที่ได๎ชี้ให๎เห็นแล๎วในบทที่ 3
                   245  พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 5
                   246  พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 8
                   247
                      พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 7
   353   354   355   356   357   358   359   360   361   362   363