Page 327 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 327

303


                           ดังนั้น จะเห็นได๎วํา แนวคิด ความเชื่อ ทัศนคติ ในลักษณะของภาพเหมารวม เป็นสาเหตุสําคัญ
                   อันหนึ่งซึ่งนําไปสูํพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ อันกํอให๎เกิดความไมํเสมอภาคหรือความไมํเทําเทียมกันใน

                   ท๎ายที่สุด ตัวอยํางของทัศนคติที่มีพื้นฐานจากการสร๎างภาพเหมารวมเชํน การเป็นลูกจ๎างเพศหญิงจะ
                   เกี่ยวข๎องกับการตั้งครรภ์ การเลี้ยงดูบุตร ฯลฯ ซึ่งเป็นอุปสรรคตํองาน การเป็นบุคคลหลากหลายทางเพศจะ
                   นําไปสูํการมีโรคทางเพศสัมพันธ์ การมีประวัติอาชญากรรมเป็นสิ่งแสดงวํามีพฤติกรรมไมํเหมาะสมกับการ
                   ทํางาน เป็นต๎น ซึ่งประเด็นเหลํานี้จะได๎วิเคราะห์ตํอไป แตํในที่นี้จะเห็นได๎วํา สาเหตุสําคัญอันนําไปสูํการ

                   ปฏิบัติที่แตกตํางในลักษณะกีดกันเรื่องตํางๆ ดังกลําวนั้นเกี่ยวข๎องกับการสร๎างภาพเหมารวมโดยตัดสิน
                   บุคคลจากกลุํมที่บุคคลนั้นเกี่ยวข๎อง แทนที่จะพิจารณาตัดสินบุคคลบนพื้นฐานของความเป็นปัจเจกชนของ
                   บุคคลแตํละคนที่แตกตํางกัน นอกจากนี้ แนวคิดความเทําเทียมกันเชิงสาระและความเทําเทียมกัน



                           4.5.1.8 ผลกระทบทางลบ (Disparate impact)


                           แนวคิดเกี่ยวกับผลกระทบทางลบ มีความสัมพันธ์กับความเทําเทียมกัน โดยเฉพาะในความหมาย
                   ของความเทําเทียมกันเชิงสาระ (Substantive  Equality)  ซึ่งพิจารณาวํา กฎเกณฑ์หรือมาตรการที่โดย
                   รูปแบบภายนอกแล๎วไมํมีการปฏิบัติที่แตกตํางกัน แตํหากสํงผล (Effect)  ให๎เกิดความไมํเทําเทียมกัน

                   ระหวํางบุคคลกลุํมตํางๆ กฎเกณฑ์หรือมาตรการนั้นก็เป็นการเลือกปฏิบัติและขัดตํอหลักความเทําเทียมเชิง
                   สาระ ในการพิจารณาผลของมาตรการนั้นจะพิจารณาวํามีลักษณะกํอให๎เกิดผลกระทบทางลบ (Desperate
                   Impact) หรือไมํ


                           ในระบบกฎหมายสหรัฐอเมริกานั้น พบวํา แนวคิดเกี่ยวกับผลกระทบทางลบได๎พัฒนาขึ้นจากคํา
                   พิพากษาศาลสหรัฐอเมริกาในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับบทบัญญัติตามกฎหมายสิทธิพลเมือง (Title  VIII)
                                                        180
                   โดยเฉพาะในคดี Griggs  v.  Duke  Power   ซึ่งนายจ๎างกําหนดให๎คุณวุฒิการศึกษาและผลการทดสอบ
                   ทัศนคติเป็นเงื่อนไขสําคัญของการจ๎างงานหรือโอนย๎ายงาน กฎเกณฑ์ลักษณะนี้ใช๎บังคับกับทุกคนโดยไมํ
                   เลือกปฏิบัติ แตํอยํางไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล๎วปรากฏวําผู๎สมัครงานผิวสีมักจะได๎รับการศึกษาที่ด๎อยกวํา
                   ดังนั้นเกณฑ์เงื่อนไขดังกลําวจึงเอื้อประโยชน์แกํผู๎สมัครผิวขาวและสํงผลกระทบในทางลบตํอผู๎สมัครผิวสีโดย

                   ทําให๎เสียเปรียบและเสียโอกาสในการได๎งานทํา ในคดีนี้ศาลได๎ขยายความหลักความเทําเทียมกันตาม
                   กฎหมายสิทธิพลเมือง (Title  VIII)  โดยอธิบายวํา “กฎหมายมิได๎ครอบคลุมเฉพาะการเลือกปฏิบัติที่เห็น
                   อยํางเดํนชัด (Overt Discrimination) แตํยังรวมถึงการปฏิบัติซึ่งเป็นธรรมในรูปแบบ (Fair in Form) แตํ
                   ในทางปฏิบัติแล๎วเป็นการเลือกปฏิบัติ (Discriminatory in Operation)


                           ปัจจัยสําคัญที่นํามาใช๎พิจารณาการเลือกปฏิบัติในทางปฏิบัติหรือผลกระทบในทางลบก็คือ ความ
                   จําเป็นทางธุรกิจ (Business  necessity)  ตัวอยํางเชํน หากการไมํจ๎างคนผิวสีไมํสามารถแสดงให๎เห็นถึง

                   เหตุผลที่เกี่ยวข๎องกับการปฏิบัติงาน ผลการทํางาน หรือประสิทธิภาพการทํางาน การไมํจ๎างงานคนผิวสีนั้น
                   ก็เป็นการเลือกปฏิบัติ


                   180
                      Griggs v. Duke Power Co. 401 US 424, 91 S Ct 849 (1971) (US Supreme Court)
   322   323   324   325   326   327   328   329   330   331   332