Page 317 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 317
293
การตระหนักถึงคุณสมบัติรํวมกันของความเป็นมนุษย์ (Common Humanity) โดยปฏิบัติตํอบุคคลอยําง
154
เทําเทียมกัน ซึ่งสอดคล๎องกับแนวคิดที่วํามนุษย์ทุกคนมีคุณคําอยูํในตัวเอง (Intrinsic Value) ดังนั้น หาก
บุคคลคนหนึ่งไมํได๎รับการปฏิบัติที่เหมือนหรือเทําเทียมกันกับบุคคลอื่น การปฏิบัติดังกลําวนั้นก็ไมํ
สอดคล๎องกับการเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ดังนั้น การเคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์จึงหมายถึงการ
เคารพหรือยอมรับความแตกตํางของบุคคลซึ่งเกิดจากเหตุตํางๆ เชํน เพศ เชื้อชาติ สีผิว ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจาก
ไมํวําบุคคลคนหนึ่งจะมีเชื้อชาติ สีผิว เพศ ใดก็ตาม แตํก็มีความเป็นมนุษย์เชํนเดียวกัน ด๎วยเหตุนี้ความ
เสมอภาคหรือความเทําเทียมกันจึงจัดเป็นสิทธิมนุษยชนที่สําคัญประการหนึ่ง อยํางไรก็ตาม ในเชิงแนวคิด
ทฤษฎีนั้น หลักความเสมอภาคหรือความเทําเทียมกันนี้อาจพิจารณาได๎หลายมุมมองโดยอาจจําแนกได๎
ดังตํอไปนี้
4.5.1.1 ความเสมอภาคอย่างเป็นสากล (Universal Equality)
หลักการพื้นฐานของความเสมอภาคคือการที่บุคคลแตํละบุคคลได๎รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน โดยไมํ
คํานึงถึงปัจจัยหรือเหตุแหํงความแตกตํางของบุคคลเหลํานั้น โดยนัยนี้จึงอาจเรียกวําความเสมอภาคอยําง
เป็นสากล หรือ คุณคําพื้นฐานรํวมกันของความเป็นมนุษย์ที่ไมํอาจวัดได๎ (Common and Immeasurable
Human Worth) ดังนั้น จากแนวความคิดนี้สํงผลให๎เกิดหลักการ “ปฏิบัติตํอบุคคลโดยไมํคํานึงถึงความ
155
แตกตําง” (Treating People in a Difference-Blind Fashion) อันเป็นพื้นฐานที่นําไปสูํหลักการห๎าม
เลือกปฏิบัติเพื่อให๎บรรลุวัตถุประสงค์ความเสมอภาคอยํางเป็นสากลดังกลําวนั้น ด๎วยการห๎ามปฏิบัติตํอ
156
บุคคลแตกตํางกันด๎วยเหตุที่บุคคลเหลํานั้นมีสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา ที่แตกตํางกัน
อยํางไรก็ตาม ความเสมอภาคอยํางเป็นสากลซึ่งตั้งอยูํบนพื้นฐานของหลักการ “ปฏิบัติตํอบุคคล
โดยไมํคํานึงถึงความแตกตําง” นี้ยังอาจไมํเพียงพอที่จะสํงเสริมให๎เกิดความเทําเทียมกันได๎ นักวิชาการ
หลายทํานชี้ให๎เห็นวํา หลักความเสมอภาคดังกลําวไมํครอบคลุมถึงความไมํเสมอภาคเชิงระบบ (Systemic
Inequality) ซึ่งเกิดขึ้นกับกลุํมบุคคลบางกลุํมที่ด๎อยโอกาสกวํากลุํมอื่น หากใช๎หลักการปฏิบัติอยํางเทํา
เทียมกันโดยไมํคํานึงถึงความแตกตํางของบุคคลแตํละกลุํมแล๎วจะสํงผลให๎เกิดการเลือกปฏิบัติขึ้นได๎
157
เชํนเดียวกัน หากพิจารณาในกรอบของการเลือกปฏิบัติแล๎วจะเห็นได๎วํา หลักความเทําเทียมกันอยํางเป็น
154 Ronald Dworkin, Life's Dominion: An Argument About Abortion, Euthanasia, and Individual
Freedom (New York: Knopf, 1993).
155 Vinicio Busacchi, The Recognition Principle : A Philosophical Perspective between Psychology ,
Sociology and Politics (Cambridge Scholars Publishing, 2015), pp. 57-58.
156
Timo Makkonen, “Is Multicultralism Bad for the Fight against Multiculturalisim?,” in Rethinking Non-
Discrimination and Minority Rights, eds. Martin Scheinin & Reetta Toivanen (2004), pp. 155-158.
157 Melissa S. Williams, “Memory, History and Membership: The Moral Claims of Marginalized Groups in
Political Representation,” in Do We Need Mionrity Rights? Conceptual Issues, ed. J Räikkä (The
Hague, Martinus Nijhoff, 1996).