Page 310 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 310
286
ปฏิบัติ โดยเฉพาะการเลือกปฏิบัติโดยตรง นอกจากนี้ หากเป็นการปฏิบัติตํอพนักงานทุกคนในลักษณะ
เชํนเดียวกัน กลําวคือ รูปแบบและลักษณะการค๎นเป็นเชํนเดียวกันทั้งลูกจ๎างชายและหญิง โดยไมํคํานึงถึง
ความแตกตํางของพนักงานบางคนที่เป็นเพศหญิง ทําให๎ได๎รับความอับอาย ก็อาจเป็นการเลือกปฏิบัติ
ทางอ๎อมได๎
ประการที่สอง หากมีปฏิบัติเฉพาะตํอพนักงานหญิง กลําวคือ หากมีข๎อเท็จจริงวํามีพนักงานชายที่
ทํางานเชํนเดียวกันอยูํด๎วยแตํไมํถูกตรวจค๎นก็อาจเป็นการปฏิบัติที่แตกตํางได๎ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาตาม
พระราชบัญญัติความเทําเทียมระหวํางเพศ พ.ศ. 2558 อาจเป็น “วิธีปฏิบัติ” ขององค์กรเอกชน ที่มี
ลักษณะเลือกปฏิบัติ แตํทั้งนี้ก็ต๎องนําปัจจัยด๎านการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินมาประกอบวํามีความ
“ชอบธรรม” หรือไมํ
ประการที่สาม การค๎นตัวพนักงานดังกลําว อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมิติอื่นนอกจากการ
เลือกปฏิบัติได๎ โดยเฉพาะสิทธิสํวนบุคคลและสิทธิในเนื้อตัวรํางกาย ซึ่งก็ต๎องพิจารณาชั่งน้ําหนักเหตุผล
ความจําเป็นและสัดสํวนของการปฏิบัติดังกลําวประกอบด๎วย
กรณีภาคเอกชนทําการค๎นตัวผู๎เข๎าชมคอมเสิร์ตซึ่งมีการกําหนดให๎เจ๎าหน๎าที่ผู๎ชายตรวจค๎นกระเป๋า
สัมภาระ เจ๎าหน๎าที่ผู๎หญิงตรวจค๎นรํางกาย ซึ่งการตรวจค๎นดังกลําวมีการใช๎มือสัมผัสบริเวณหน๎าอก อวัยวะ
เพศ และต๎นขา โดยไมํมีการแจ๎งลํวงหน๎าวําจะตรวจอะไรบ๎าง ผู๎ร๎องเห็นวําเป็นลักษณะลํวงละเมิดทางเพศ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหํงชาติเห็นวํา การตรวจค๎นกระทําเพื่อเป็นการคุ๎มครองผู๎เข๎าชมคอนเสิร์ตให๎
ได๎รับความปลอดภัยและไมํให๎กระทําผิดกฎหมาย แต่วิธีการตรวจค้นโดยใช้มือสัมผัสร่างกาย อาจสุ่มเสี่ยง
ต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน (รายงานผลการพิจารณาที่ 952/2558) กรณีนี้จะเห็นได๎วํา การปฏิบัติที่
พิพาทเกิดขึ้นในภาคเอกชน แตํเป็นการปฏิบัติตํอทุกคนเหมือนกันโดยไมํเลือกปฏิบัติตํอผู๎เข๎าชมบางคน
อยํางไรก็ตาม การปฏิบัติดังกลําวสํงผลกระทบตํอสิทธิสํวนบุคคลในเนื้อตัวรํางกาย ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชน
ประการหนึ่ง ทั้งนี้มีข๎อสังเกตวํา สิทธิสํวนบุคคลหรือสิทธิในความเป็นอยูํสํวนตัว (Right to Privacy) นั้นมี
151
ความหมายหลายนัย ทั้งในแงํสิทธิสํวนบุคคลในแงํเนื้อตัวรํางกาย สิทธิสํวนบุคคลในข๎อมูล นอกจากนี้ยังมี
กรณีคําร๎องเกี่ยวกับการนําข๎อมูลสํวนบุคคลของผู๎ร๎องมาแถลงขําวตํอสื่อมวลชน (คําร๎อง 362/2556,
รายงานผลการพิจารณาที่ 506/2557) กรณีเชํนนี้จะเห็นได๎วํา ไมํปรากฏข๎อเท็จจริงวํามีการปฏิบัติที่
แตกตํางกันด๎วยเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน แตํเกี่ยวข๎องกับการกระทบสิทธิ
มนุษยชนประการอื่น โดยเฉพาะสิทธิในความเป็นอยูํสํวนตัว
151 คณาธิป ทองรวีวงศ์, เอกสารประกอบการสอนวิชากฎหมายสิทธิส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคล (กรุงเทพ:
มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น, 2557), หน๎า 17-26.