Page 237 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 237

213


                                                                                          106
                           ในคดี Law v. Canada (Minister of Employment and Immigration)  ซึ่งมีประเด็นต๎อง
                   พิจารณาวํากฎเกณฑ์เกี่ยวกับเงินอุดหนุนที่ระบุอายุผู๎รับผลประโยชน์นั้นเป็นการเลือกปฏิบัติอันขัดตํอ

                   รัฐธรรมนูญหรือไมํ ศาลสูงสุดแคนาดาตัดสินวํา กฎเกณฑ์ดังกลําวไมํขัดตํอรัฐธรรมนูญ โดยวางเกณฑ์วําต๎อง
                   พิจารณา 3 ประเด็น ดังนี้


                           1.  กฎเกณฑ์ที่พิพาทนั้นได๎กําหนดหลักการที่แตกตํางกัน (Differential  Treatment)  ระหวําง
                   บุคคลผู๎อ๎างวําได๎รับผลกระทบกับบุคคลอื่นหรือไมํ ทั้งในเชิงวัตถุประสงค์ หรือผลกระทบ (In Purpose or
                   Effect)


                           2. การปฏิบัติที่แตกตํางกันนั้นเกิดขึ้นจากพื้นฐานของเหตุแหํงการเลือกปฏิบัติที่ระบุไว๎หรือไมํ


                           3. กฎเกณฑ์ที่พิพาทนั้นมีวัตถุประสงค์หรือสํงผลกระทบให๎เกิดการเลือกปฏิบัติตามความหมายของ
                   ความเทําเทียมกันที่ได๎รับการคุ๎มครองตามรัฐธรรมนูญหรือไมํ


                           จะเห็นได๎วํา ศาลเน๎นย้ําถึงการพิจารณากฎเกณฑ์ มาตรการ หรือแนวปฏิบัติ ที่พิพาทนั้น ทั้งในเชิง
                   วัตถุประสงค์ หรือผลกระทบ (In  Purpose  or  Effect) กลําวคือ พิจารณาในกรอบอยํางกว๎าง ครอบคลุม
                   กฎเกณฑ์ที่มิได๎วางหลักปฏิบัติแตกตํางโดยตรงจากเนื้อหาของกฎเกณฑ์นั้น แตํสํงผล (effect)  ให๎เกิดการ
                   เลือกปฏิบัติด๎วย


                           นอกจากนี้มีข้อสังเกตว่า กฎหมายและแนวค าพิพากษาศาลแคนาดามุ่งเน้นการคุ้มครอง  “ความ
                   เท่าเทียมกัน” (Equality) โดยพิจารณาว่าการเลือกปฏิบัติเป็นการกระท าอันขัดต่อหลักความเท่าเทียมกัน

                   หรืออาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า การห้ามเลือกปฏิบัติมิได้เป็นหลักส าคัญในตัวของมันเอง แต่เป็นวิธีการที่จะ
                   บรรลุถึงหลักส าคัญอันกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองซึ่งได้แก่ความเท่าเทียมกัน ดังจะเห็นได้จากคดี Law  v.
                   Canada  (Minister  of  Employment  and  Immigration) ซึ่งศาลพิจารณากฎเกณฑ์ที่พิพาทภายใต้

                   บริบทของหลักความเท่าเทียมกันด้วย นอกจากนี้ ตามกฎหมายแคนาดาแสดงให้เห็นว่า มิได้พิจารณาความ
                   เท่าเทียมกันเฉพาะเนื้อหาของมาตรการหรือกฎเกณฑ์อันใดอันหนึ่งว่าปฏิบัติต่อบุคคลเหมือนหรือแตกต่าง
                   กัน (Formal  equality)  แต่มีแนวทางพิจารณาหลักความเท่าเทียมกันในกรอบเชิงสาระ (Substantive
                   equality) กล่าวคือ ใช้ปัจจัยต่างๆหลายปัจจัยมาประกอบการพิจารณาว่ากฎเกณฑ์หรือมาตรการนั้นส่งผล
                   ให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันเชิงระบบ (Systematic  Inequality)  หรือไม่  ในการนี้ ปัจจัยส าคัญที่ศาล

                   พิจารณาคือผลกระทบที่เกิดจากกฎเกณฑ์หรือมาตรการที่พิพาทว่าส่งผลกระทบในทางลบ (Adverse
                   Effect  หรือ detriment  effect)  ต่อผู้อ้างว่าถูกเลือกปฏิบัติหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาจากผลกระทบนี้ เป็น
                   หลักการเดียวกับการเลือกปฏิบัติโดยอ้อม (Indirect Discrimination) นั่นเอง จึงอาจกลําวได๎วํา การเลือก

                   ปฏิบัติตามกฎหมายแคนาดาครอบคลุมทั้งกรณีเลือกปฏิบัติโดยตรงและโดยอ๎อม เพียงแตํศาลมิได๎ระบุ
                   จําแนกเป็นสองกรณีอยํางชัดแจ๎งเทํานั้น



                   106  Law v. Canada (Minister of Employment and Immigration), [1999] 1 S. C. R. 497
   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241   242