Page 233 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 233
209
คดีนี้เกี่ยวข๎องกับชายชาวโรมา (Roma) สองคนซึ่งถูกยิงเสียชีวิตขณะตํอสู๎กับกองกําลังตํารวจในการใช๎กําลัง
97
เข๎าจับกุม โดยในระหวํางเหตุการณ์ เจ๎าหน๎าผู๎ซึ่งเป็นคนวิสามัญผู๎ต๎องหาได๎ทําการตะโกนออกมาวํา “แก
เป็นพวกยิปซีชั่วร๎าย (You Damn Gypsies)” ทั้งนี้ ECtHR พบวํารัฐได๎ละเมิดสิทธิในชีวิต (Right to Life)
ของผู๎ต๎องสงสัย (มาตรา 2 ของ ECHR) อีกทั้งเป็นความผิดพลาดในการทําการสืบสวนอยํางเพียงพอของการ
เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นข๎อบกพรํองในการสืบสวน และเทํากับวําเป็นการละเมิดมาตรา 2 รํวมกับสิทธิจากการไมํ
ถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากรัฐมีหน๎าที่ในการทําการสืบสวนแรงจูงใจพิเศษที่อาจทําให๎เกิดซึ่งการเลือกปฏิบัติ
นอกจาก ECHR แล๎ว กฎหมายสหภาพยุโรปก็มีการยอมรับหลักการเลือกปฏิบัติโดยอ๎อมเชํนกัน
อาจกลําวได๎วํา ทั้ง ECHR และ EU law ตระหนักวําการเลือกปฏิบัติอาจจะไมํได๎เป็นผลจากการปฏิบัติที่
แตกตํางกันกับบุคคลที่อยูํในสถานภาพเดียวกัน แตํกฎเกณฑ์ มาตรการที่พิจารณาจากเนื้อหาแล๎วมีความ
เทําเทียมกัน แตํเป็นการกําหนดความเทําเทียมกันให๎กับบุคคลที่อยูํในสถานภาพแตกตํางกันด๎วย จึง
พิจารณาได๎วําเป็น การเลือกปฏิบัติทางอ๎อม (Indirect Discrimination) กลําวคือ แม๎วําการปฏิบัตินั้นไมํได๎
เป็นการปฏิบัติที่แตกตํางกันแตํผลกระทบของการปฏิบัติทําให๎เกิดความแตกตํางกันขึ้น ซึ่งผู๎ถูกปฏิบัติจะ
98
รู๎สึกถึงความแตกตําง โดยกฎหมายสหภาพยุโรปเกี่ยวกับความเทําเทียมกันทางเชื้อชาติ วางหลักวํา การ
เลือกปฏิบัติทางอ๎อม (Indirect Discrimination) จะเกิดขึ้นเมื่อมีกฎเกณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อหาเป็นกลาง
(Neutral Provision) ซึ่งเกณฑ์หรือการปฏิบัติ (Criterion or Practice) จะใช๎เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์
99
(Racial or Ethnic Origin) ของบุคคล ซึ่งมีข๎อเสียเปรียบโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น โดย
ECHR ได๎กลําวถึงความหมายของการเลือกปฏิบัติทางอ๎อม (Indirect Discrimination) ในการพิจารณา
ตัดสินหลายคดีวําเป็นความแตกตํางในการปฏิบัติซึ่งอาจอยูํในรูปแบบของผลกระทบจากความเสียเปรียบ
อยํางไมํได๎สัดสํวน (Disproportionately Prejudicial Effects) ของนโยบายทั่วไปหรือมาตรการซึ่งเป็นการ
100
เลือกปฏิบัติเฉพาะกลุํม (Discriminates Against a Group)
ในบางกรณีกฎเกณฑ์ที่พิพาทนั้นไมํระบุการปฏิบัติที่แตกตํางด๎วยเหตุแหํงเพศ แตํผลที่เกิดขึ้นในทาง
ปฏิบัติของกฎเกณฑ์นั้นทําให๎บุคคลบางกลุํมเสียเปรียบอีกกลุํมหนึ่งด๎วยเหตุแหํงเพศ เชํน คดี Hilde
Schönheit v. Stadt Frankfurt am Main ในกรณีนี้การคํานวณเงินที่จะได๎รับหลังการเกษียณอายุมีการใช๎
อัตราการคํานวณที่แตกตํางกันระหวํางลูกจ๎างที่ทํางานแบบไมํเต็มเวลา (Part-Time Employees) และ
101
ลูกจ๎างที่ทํางานแบบเต็มเวลา (Full-Time Employees) โดยอัตราที่แตกตํางกันนั้นไมํได๎ขึ้นกับความ
97 ECtHR, Nachova and Others v. Bulgaria [GC] (Nos. 43577/98 and 43579/98), 6 July 2005.
98 Article 2(2)(b) ของ the Racial Equality Directive
99 Similarly: Employment Equality Directive, Article 2(2)(b); Gender Equality Directive (Recast), Article
2(1)(b); Gender Goods and Services Directive, Article 2(b).
100
ECtHR, D.H. and Others v. the Czech Republic [GC] (No. 57325/00), 13 November 2007, para. 184;
ECtHR, Opuz v. Turkey (No. 33401/02), 9 June 2009, para. 183; ECtHR, Zarb Adami v. Malta (No.
17209/02), 20 June 2006, para. 80.
101 Hilde Schönheit v. Stadt Frankfurt am Main and Silvia Becker v. Land Hessen, Joined Cases C-4/02
and C-5/02 [2003] ECR I-12575, 23 October 2003.

