Page 227 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 227
203
ไทยหนึ่งปี เมื่อจํานวนปีการศึกษาของประเทศอินเดียน๎อยกวําประเทศไทย ยํอมทําให๎เนื้อหาของหลักสูตร
และการประเมินความรู๎แตกตํางกันด๎วย ผู๎ถูกฟูองคดี จึงกําหนดอัตราเงินเดือนของผู๎ที่จบการศึกษาระดับ
ปริญญาโทจากประเทศอินเดียไว๎ต่ํากวําผู๎ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากประเทศไทย 1 ขั้น ซึ่ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาคุณวุฒิที่ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 กําหนดนี้ มิได๎ใช๎เฉพาะแตํในประเทศอินเดียเทํานั้น แตํยัง
ใช๎กับประเทศอื่นๆ ที่มีระยะเวลาการศึกษาตามที่หลักสูตรกําหนดน๎อยกวําประเทศไทยด๎วย เชํน ประเทศ
ฟิลิปปินส์ เป็นต๎น (คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.299/2551)
ดังนั้นจะเห็นได๎วํา การพิจารณาวําการปฏิบัติที่แตกตํางกัน จะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไมํนั้น ต๎อง
นําปัจจัยตํางๆในรายละเอียดของการปฏิบัตินั้นมาพิจารณาด๎วย
นอกจากการเปรียบเทียบระหวํางบุคคลคนหนึ่งกับบุคคลอีกคนหนึ่งที่ได๎รับการปฏิบัติแตกตํางกัน
ภายใต๎เงื่อนไขที่วําบุคคลทั้งสอง “เหมือนกัน” แล๎ว ยังพบวําศาลได๎เปรียบเทียบข๎อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ที่
“เหมือนกัน” ซึ่งเกี่ยวข๎องกับบุคคลคนเดียวกันด๎วย เชํน ศาลปกครองเปรียบเทียบการปฏิบัติในการจัดซื้อ
จัดจ๎างที่ผู๎ถูกฟูองเคยปฏิบัติตํอผู๎ฟูองคดีในการประกวดราคาครั้งกํอนๆกับครั้งที่พิพาท และเห็นวํา ในการ
ประกวดราคาครั้งที่พิพาทนี้ไมํปรากฏวํามีข๎อเท็จจริงที่ตํางกัน (เป็นกรณีข๎อเท็จจริงที่เหมือนกัน แตํเกิดการ
ปฏิบัติแตกตํางกัน) จึงตัดสินวําผู๎ถูกฟูองคดีเลือกปฏิบัติ (คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.154/2547)
ในบางคดีที่มีประเด็นการกําหนดเงินคําทดแทนที่ดินแกํผู๎ถูกเวนคืนแตกตํางกัน ปัจจัยที่นํามา
เปรียบเทียบคือ ที่ดินที่อยูํติดซอยสํวนบุคคลเชํนเดียวกันและมีสภาพที่ดินคล๎ายกับที่ดินของผู๎ฟูองคดี ซึ่ง
คณะกรรมการกําหนดคําทดแทนมากกวําที่ดินของผู๎ฟูองคดี ศาลปกครองให๎ผู๎ถูกฟูองคดี วินิจฉัยอุทธรณ์
ของผู๎ฟูองคดีใหมํในราคาที่เป็นธรรมใกล๎เคียงกับที่ดินที่อยูํในบริเวณเดียวกัน (คําพิพากษาศาลปกครอง
กลางที่ 1272/2545)
ในกรณีที่สาระสําคัญของเรื่องนั้นๆมีความแตกตํางกัน ก็อาจมีการปฏิบัติที่แตกตํางกันได๎ เชํน ผู๎
ฟูองคดีเข๎าครอบครองที่ดินในพื้นที่เขตชลประทานโดยไมํมีสิทธิตามกฎหมาย กรณีจึงไมํอาจเปรียบเทียบกับ
บุคคลผู๎มีสิทธิดังกลําวซึ่งกฎหมายรับรองได๎การที่ได๎รับการปฏิบัติจากทางราชการจึงยํอมแตกตํางกัน กรณี
จึงไมํขัดตํอรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการที่ผู๎ถูกฟูองคดีทั้งสองไมํพิจารณาจํายคําทดแทนต๎นไม๎และบํอน้ําให๎แกํผู๎
ฟูองคดี จึงชอบด๎วยกฎหมายแล๎ว (คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.497/2551) ในทางกลับกัน หาก
สาระสําคัญของเรื่องนั้นๆเหมือนกัน การปฏิบัติที่แตกตํางกันจะขัดตํอหลักความเสมอภาคตามรัฐธรรมนูญ
เชํน สาระสําคัญของกรณีนี้คือ ผู๎ครอบครองที่ดินทั้ง 54 รายซึ่งถูกเวนคืนที่ดิน ดังนั้นการแบํงกลุํมบุคคล
ดังกลําวออกเป็นสองกลุํมและวางหลักเกณฑ์ให๎คําทดแทนแตกตํางกันจึงเป็นการปฏิบัติตํอสาระสําคัญที่
เหมือนกัน ให๎เกิดความแตกตํางกัน จึงขัดกับหลักความเสมอภาคตามรัฐธรรมนูญแหํงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2540 (คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.22/2551)
โดยสรุปแล๎วพบวํา แนวการพิจารณาความเสมอภาคหรือความเทําเทียมกันก็คือ การปฏิบัติ
เหมือนกันตํอสิ่งที่มีสาระสําคัญเชํนเดียวกัน และ การปฏิบัติที่แตกตํางกันตํอสิ่งที่มีสาระสําคัญแตกตํางกัน
ดังนั้น หากมีการปฏิบัติตํางกันตํอสิ่งที่มีสาระสําคัญเชํนเดียวกัน หรือ การปฏิบัติเหมือนกันตํอสิ่งที่มี