Page 213 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 213
189
ศีลธรรมอันดีของประชาชนโดยไมํอยูํนอกเหนือจากขอบเขตแหํงความมุํงหมายอันเป็นสาระส าคัญเพื่อ
ควบคุมการด าเนินการเกี่ยวกับภาพและเสียงที่ได๎มีการบันทึกถํายทอดตามเจตนารมณ์ของมาตรา 4 วรรค
หนึ่ง (2) แหํงพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 อีกทั้งกฎกระทรวงฉบับที่ 12
(พ.ศ. 2549)ฯ มีเจตนารมณ์ควบคุมการให๎บริการเกมคอมพิวเตอร์ตามร๎านให๎บริการคอมพิวเตอร์ซึ่งเกม
คอมพิวเตอร์สํวนใหญํมีเนื้อหาไมํเหมาะสมหรือขัดตํอศีลธรรมอันดีของประชาชนอันสํงผลกระทบตํอเด็ก
และเยาวชนดังนั้นจึงจ าเป็นต๎องมีการควบคุมและตรวจสอบและต๎องได๎รับอนุญาตจากนายทะเบียนตาม
มาตรา 6 และมาตรา 11 แหํงพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 ด๎วยแตํกรณี
ของร๎านถํายรูปหรือคอมพิวเตอร์อื่นๆหรือการเลํนเกมออนไลน์ในบ๎านพักอาศัยหรือสถานที่ราชการมิได๎มี
คอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดดิสก์ที่บันทึกหรือถํายทอดเกมการเลํนทุกชนิดไว๎ให๎บริการแกํลูกค๎าแตํอยํางใดเป็น
เพียงใช๎ตัดตํอและตกแตํงภาพให๎แกํลูกค๎าเทํานั้นส าหรับการเลํนเกมในบ๎านหรือสถานที่ราชการเป็นเพียง
การเลํนเกมเพื่อบันเทิงในที่พักอาศัยหรือเป็นการใช๎เพื่อการด าเนินงานของสํวนราชการเทํานั้นจึงไมํอยูํ
ภายใต๎บังคับของกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2549)ฯ ซึ่งฮาร์ดดิสก์ของร๎านถํายรูปหรือร๎านค๎าอื่นๆหรือ
ของบุคคลทั่วไปหรือของสํวนราชการจึงไมํอยูํภายใต๎บทนิยามของค าวําเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ตาม
กฎกระทรวงดังกลําวดังนั้นจึงถือได๎วําการที่ผู๎ถูกฟูองคดีออกกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2549)ฯ มาใช๎
บังคับโดยอาศัยอ านาจตามาตรา 4 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 43 แหํงพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทป
และวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 จึงเป็นการใช๎อ านาจตามที่กฎหมายได๎ให๎อ านาจไว๎โดยชอบธรรมและไมํขัดตํอ
หลักการคุ๎มครองสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ กรณีจึงไมํมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรม
และไมํเป็นการใช๎ดุลพินิจโดยมิชอบกับผู๎ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะ
32) กรณีการให้นักเรียนออกจากโรงเรียนเพราะมีบุตร (ค าร้องที่ 600/2553 ค าสั่งที่
69/2553)
นางสาว ธ ผู๎ฟูองคดีได๎เข๎าศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนวัดแหํงหนึ่ง โดยเข๎าเรียนได๎เพียง 2
วัน ครูฝุายปกครองไมํอนุญาตให๎เข๎าเรียนและให๎ออกจากโรงเรียนโดยไมํมีการแจ๎งเป็นหนังสือ โดยให๎
เหตุผลวําผู๎ฟูองคดีมีบุตรแล๎ว ผู๎ฟูองคดีท าหนังสือร๎องเรียนไปยังผู๎วําราชการจังหวัดแตํไมํได๎รับค าชี้แจงใดๆ
จึงน าคดีมาฟูองตํอศาลปกครองขอให๎มีค าพิพากษาหรือค าสั่งให๎ผู๎ถูกฟูองคดีทั้งสอง (ผู๎อ านวยการโรงเรียน
และ ผู๎อ านวยการส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา) มีความผิดและรับโทษตามกฎหมายและระเบียบของทาง
ราชการ
ศาลปกครองชั้นต๎นไมํรับฟูองเนื่องจากนาย ม. ซึ่งอ๎างวําเป็นผู๎ปกครองของผู๎ฟูองคดีเป็นเพียงบิดา
ของนาย พ. สามีโดยไมํขอบด๎วยกฎหมายของผู๎ฟูองคดี ดังนั้น นาย ม. จึงมิใชํผู๎แทนโดยชอบธรรมหรือ
ผู๎ปกครองของผู๎ฟูองคดี และมิใชํผู๎ซึ่งได๎รับความเดือดร๎อนหรือเสียหายจากการกระท าของผู๎ฟูองคดีทั้งสอง
ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่งแหํงพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542