Page 204 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 204

180


                  ยกเว๎นภาษีส าหรับเงินหรือประโยชน์ใดๆที่ได๎รับจากกองทุนส ารองเลี้ยงชีพเชํนเดียวกับประกาศอธิบดี

                  กรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 59)  ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2539 แก๎ไขเพิ่มเติมประกาศอธิบดี
                  กรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎  (ฉบับที่ 52)  โดยก าหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการวําเงินหรือ

                  ประโยชน์ใดๆที่ลูกจ๎างได๎รับจากกองทุนส ารองเลี้ยงชีพลูกจ๎างที่จะได๎รับการยกเว๎นภาษีเงินได๎จะต๎องเป็น

                  สมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพระหวํางวันที่ 13 กันยายน 2537 ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2538  ซึ่งเป็นวันที่
                  ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 52) และได๎ออกจากงานเพราะเกษียณอายุแม๎จะ

                  เป็นสมาชิกไมํครบห๎าปีลูกจ๎างที่เป็นสมาชิกในระหวํางวันที่ 13 กันยายน 2537 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2538

                  แตํกลับไมํได๎รับยกเว๎นภาษีเงินได๎ส าหรับเงินหรือประโยชน์ใดๆที่ได๎รับจากกองทุนส ารองเลี้ยงชีพตาม
                  ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 80) ดังกลําวผู๎ฟูองคดีเห็นวําเป็นการเลือกปฏิบัติที่

                  ไมํเป็นธรรมและเป็นการกระท าที่ไมํชอบด๎วยกฎหมายผู๎ฟูองคดีจึงได๎มีหนังสือขอให๎นายกรัฐมนตรีสั่งให๎ผู๎ถูก
                  ฟูองคดีที่ 2 แก๎ไขประกาศดังกลําวซึ่งส านักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได๎มีหนังสือแจ๎งให๎ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2

                  ด าเนินการพิจารณาแก๎ไขแตํผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 ไมํด าเนินการผู๎ฟูองคดีจึงน าคดีมาฟูองขอให๎ศาลมีค าพิพากษา
                  ให๎ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 แก๎ไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 80) ลงวันที่ 29 มีนาคม

                  2543 เพื่อให๎ผู๎ฟูองคดีซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพได๎สิทธิยกเว๎นภาษีเชํนเดียวกับคนอื่น

                         ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าหลักเกณฑ์ที่ก าหนดใน  (ข) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
                  เกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 80) จะเห็นวําลูกจ๎างที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพที่มีอายุไมํต่ ากวํา

                  ห๎าสิบปีบริบูรณ์และท างานอยูํกับนายจ๎างมาแล๎วไมํน๎อยกวําห๎าปีและเกษียณอายุกํอนการเป็นสมาชิกครบ

                  ห๎าปีจะมีอยูํด๎วยกัน 3 กลุํม กลุํมแรกได๎แกํลูกจ๎างที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพกํอนวันที่ 13
                  กันยายน 2537 กลุํมที่สองได๎แกํ ลูกจ๎างที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพระหวํางวันที่ 13

                  กันยายน 2537 ถึงวันที่ 2 กันยายน 2538 และกลุํมที่สามได๎แกํลูกจ๎างที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารอง
                  เลี้ยงชีพหลังวันที่ 2 ธันวาคม 2538 การที่ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 ประกาศก าหนดเฉพาะกลุํมลูกจ๎างที่สมัครเป็น

                  สมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพระหวํางวันที่ 13 กันยายน 2537 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2538 ให๎ได๎รับสิทธิใน
                  การยกเว๎นภาษีเงินได๎ที่ลูกจ๎างได๎รับจากกองทุนส ารองเลี้ยงชีพเมื่อออกจากงานเพราะเกษียณอายุทั้งที่

                  ลูกจ๎างทั้งสามกลุํมสมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพที่มีอายุไมํต่ ากวําห๎าสิบปีบริบูรณ์โดยได๎ท างานกับ

                  นายจ๎างมาแล๎วไมํน๎อยกวําห๎าปีและได๎ออกจากงานเพราะเกษียณอายุกํอนการเป็นสมาชิกกองทุนส ารอง
                  เลี้ยงชีพครบห๎าปีเหมือนกันดังนั้นประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได๎ (ฉบับที่ 80) ข๎อ (ข) ที่

                  ก าหนดเฉพาะลูกจ๎างที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนส ารองเลี้ยงชีพระหวํางวันที่ 13 กันยายน 2537 ถึงวันที่ 2

                  ธันวาคม 2538 จึงมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรมตามมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญแหํง
                  ราชอาณาจักรไทยฯประกอบกับมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แหํงพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯประกาศฯ

                  ดังกลําวจึงไมํชอบด๎วยกฎหมาย
   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209