Page 194 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 194
170
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าการสรรหาบุคคลเข๎ารับราชการโดยวิธีใดถือเป็นดุลพินิจของผู๎ถูก
ฟูองคดีที่ 1 จะเลือกใช๎เพราะเป็นกรณีที่กฎหมายก าหนดให๎อ านาจไว๎แตํการเลือกใช๎วิธีการใดนั้นจะต๎อง
ค านึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นหลักซึ่งผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ได๎ให๎การตํอศาลปกครองชั้นต๎นไว๎วํามีความ
จ าเป็นที่จะต๎องก าหนดคุณสมบัติเฉพาะต าแหนํงพนักงานคดีปกครอง 3 ในครั้งนี้วําจะต๎องได๎รับปริญญาตรี
เกียรตินิยมทางกฎหมายรัฐศาสตร์รัฐประศาสนศาสตร์จากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการข๎าราชการพล
เรือน (ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2) รับรองนั้นเนื่องจากจะมีการจัดตั้งศาลปกครองในภูมิภาคจ านวน 16 แหํงท าให๎มี
ความจ าเป็นต๎องใช๎บุคลากรโดยเฉพาะต าแหนํงพนักงานคดีปกครองซึ่งมีหน๎าที่ชํวยเหลือตุลาการศาล
ปกครองในการด าเนินคดีปกครองเป็นจ านวนมากจึงจ าเป็นต๎องสรรหาโดยเร็วอีกทั้งในอดีตได๎ด าเนินการ
สรรหาโดยวิธีการสอบแขํงขันและวิธีการคัดเลือกมาแล๎วและได๎เคยประเมินวําการกระท าโดยวิธีคัดเลือกใช๎
งบประมาณน๎อยกวําและใช๎ระยะเวลาด าเนินการน๎อยกวําและเมื่อพิจารณาจากเหตุผลในการใช๎ดุลพินิจ
ดังกลําวแล๎วจะเห็นได๎วําผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ไมํได๎มีความจงใจที่จะเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรมตํอบุคคลหนึ่ง
บุคคลใดหากแตํได๎ยึดประโยชน์ของทางราชการเป็นที่ตั้งประกอบกับมีระเบียบกฎหมายที่ใช๎อยูํในขณะนั้น
ให๎อ านาจแกํผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ที่จะกระท าได๎ ดังนั้นประกาศรับสมัครคัดเลือกของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 จึงชอบ
ด๎วยกฎหมายที่ศาลปกครองชั้นต๎นมีค าพิพากษาให๎เพิกถอนประกาศรับสมัครของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ในสํวนที่
เกี่ยวกับคุณสมบัติเฉพาะ ส าหรับต าแหนํงพนักงานคดีปกครอง 3 ที่ก าหนดวําต๎องได๎รับปริญญาตรีเกียรติ
นิยมนั้นศาลปกครองสูงสุดไมํเห็นพ๎องด๎วยส าหรับประเด็นที่วํามติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 ที่ก าหนดให๎ผู๎ได๎รับ
ปริญญาตรีเกียรตินิยมจากสถาบันการศึกษาที่ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 รับรองทั้งในประเทศและตํางประเทศถือวํา
เป็นเหตุพิเศษตามมาตรา 50 แหํงพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ซึ่งสํวนราชการ
สามารถใช๎วิธีคัดเลือกเพื่อบรรจุและแตํงตั้งเข๎ารับราชการได๎ปรากฏตามหนังสือส านักงาน ก.พ.ที่ นร.
0708.4/ว9 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2543 ชอบด๎วยกฎหมายหรือไมํเห็นวํามติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 ดังกลําว
ออกมาเพื่อเป็นข๎อยกเว๎นให๎สํวนราชการสามารถใช๎วิธีการคัดเลือกบุคคลเข๎ารับราชการแทนการ
สอบแขํงขันแตํในบางสถานการณ์การคัดเลือกบุคคลเข๎ารับราชการเป็นวิธีการที่เหมาะสมเนื่องจากมี
ผู๎ส าเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่ไมํเพียงพอแกํความต๎องการของสํวนราชการหรือกรณีที่สํวนราชการมีข๎อ
ผูกพันกับบุคคลบางคนไว๎แล๎วเชํนกรณีผู๎ได๎รับทุนให๎ไปศึกษาในตํางประเทศหรือในกรณีที่มีความจ าเป็น
เรํงดํวนต๎องบรรจุและแตํงตั้งบุคคลเข๎ารับราชการเป็นต๎นแตํส าหรับการก าหนดให๎ผู๎ได๎รับปริญญาตรีเกียรติ
นิยมทุกสาขาถือเป็นเหตุพิเศษที่จะให๎ได๎รับสิทธิคัดเลือกแทนการสอบแขํงขันนั้นเห็นวําเป็นการเลือกปฏิบัติ
โดยไมํเป็นธรรมดังนั้นมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 2 ที่ก าหนดให๎ผู๎ได๎รับปริญญาตรีเกียรตินิยมทุกสาขาซึ่งมี
ลักษณะเป็นกฎถือเป็นเหตุพิเศษที่จะได๎รับการคัดเลือกแทนการสอบแขํงขันจึงเป็นกฎที่ไมํชอบด๎วย
กฎหมาย