Page 192 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 192
168
มีมติไมํรับสมัครผู๎ฟูองคดีเนื่องจากเป็นผู๎มีบุคลิกภาพและรํางกายไมํเหมาะสมที่จะเป็นข๎าราชการอัยการ
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 33 (11) แหํงพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 ซึ่งผู๎ถูก
ฟูองคดีเห็นชอบด๎วยกับคณะอนุกรรมการฯจึงได๎ประกาศรายชื่อผู๎มีสิทธิสอบโดยไมํมีรายชื่อผู๎ฟูองคดีเป็นผู๎มี
สิทธิสอบผู๎ฟูองคดีเห็นวําเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรมเพราะเหตุแหํงความแตกตํางในเรื่องสภาพทาง
กายจึงน าคดีมาฟูองขอให๎ศาลเพิกถอนมติดังกลําว
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การที่ผู๎ถูกฟูองคดีจะใช๎อ านาจดุลพินิจตามมาตรา 33 (11) และ
(12) แหํงพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 มาประกอบการวินิจฉัยวําผู๎สมัครสอบ
คัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข๎าราชการอัยการในต าแหนํงอัยการผู๎ชํวยรายใดมีกายหรือจิตใจไมํเหมาะสมที่จะเป็น
ข๎าราชการอัยการต๎องมีเหตุที่หนักแนํนควรคําแกํการรับฟังด๎วยวําผู๎สมัครสอบคัดเลือกรายนั้นมีกายหรือ
จิตใจที่ไมํเหมาะสมอยํางไรอันท าให๎ไมํสามารถปฏิบัติงานในหน๎าที่ของข๎าราชการอัยการได๎ซึ่งเมื่อ
ข๎อเท็จจริงและหนังสือของผู๎ที่รับรองสุขภาพและความสามารถในการปฏิบัติงานของผู๎ฟูองคดีที่มีถึง
คณะอนุกรรมการพิจารณาคุณสมบัติของผู๎สมัครสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข๎าราชการในต าแหนํงอัยการ
ผู๎ชํวย พ.ศ. 2544 ฟังได๎วําผู๎ฟูองคดีแม๎จะมีรูปกายพิการแตํความพิการดังกลําวไมํถึงขนาดที่ท าให๎ผู๎ฟูองคดี
ไมํอาจชํวยเหลือตนเองได๎หรือไมํอาจปฏิบัติหน๎าที่การงานโดยปกติได๎โดยที่งานที่ผู๎ฟูองคดีเคยท าในขณะ
เป็นทนายความมาแล๎วนั้นมีลักษณะท านองเดียวกับงานของข๎าราชการอัยการจึงนําเชื่อวําแม๎สภาพทางกาย
ของผู๎ฟูองคดีจะพิการแตํความแตกตํางดังกลําวไมํถึงขั้นจะเป็นอุปสรรคอยํางมากตํอการปฏิบัติหน๎าที่ใน
ลักษณะงานของอัยการดังนั้นการที่ผู๎ถูกฟูองคดีมีมติไมํรับสมัครผู๎ฟูองคดีโดยมิได๎พิจารณาถึงความสามารถ
ที่แท๎จริงในการปฏิบัติงานของผู๎ฟูองคดีจึงไมํมีเหตุผลที่หนักแนํนควรคําแกํการรับฟังวําการที่ผู๎ฟูองคดีมีกาย
พิการดังกลําวจะท าให๎ไมํสามารถปฏิบัติงานในหน๎าที่ของข๎าราชการอัยการได๎อยํางไรมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่
ไมํรับสมัครผู๎ฟูองคดีในการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข๎าราชการอัยการในต าแหนํงอัยการผู๎ชํวยประจ าปี
พ.ศ. 2544 จึงเป็นการใช๎ดุลพินิจโดยไมํชอบด๎วยมาตรา 33 (11) แหํงพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการ
ฝุายอัยการ พ.ศ. 2521 และเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรมตํอผู๎ฟูองคดีตามมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญ
แหํงราชอาณาจักรไทย
11) การก าหนดให้ผู้ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมเป็นวุฒิที่ก าหนดให้ใช้วิธีการคัดเลือกแทนการ
สอบแข่งขันได้เป็นการให้สิทธิเหนือกว่าหรือดีกว่าผู้ที่ได้รับปริญญาตรีในสาขาเดียวกันแต่ไม่ได้รับ
เกียรตินิยมเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.158/2550)
มติของคณะกรรมการข๎าราชการพลเรือน (ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1) ที่ก าหนดให๎ผู๎มีอ านาจสั่งบรรจุบุคคล
เข๎ารับราชการและแตํงตั้งให๎ด ารงต าแหนํงตามมาตรา 52 แหํงพระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการพลเรือน
พ.ศ. 2535 สามารถคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลซึ่งส าเร็จการศึกษาปริญญาตรีเกียรตินิยมทุกสาขาวิชาจาก
สถาบันการศึกษาที่ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 รับรองทั้งในประเทศและตํางประเทศเข๎ารับราชการเป็นข๎าราชการพล
เรือนสามัญและแตํงตั้งให๎ด ารงต าแหนํงที่ได๎รับคัดเลือก ตามข๎อ 1.2 ของหนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร