Page 193 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 193
169
0708.4/ว11 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2545 เป็นมติที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปไมํมุํงหมายให๎ใช๎บังคับแกํกรณีใด
หรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 จึงมีลักษณะเป็นกฎและโดยที่ระบบการศึกษาของ
สถาบันการศึกษาของรัฐหรือเอกชนในประเทศไทยไมํได๎มีการจัดแยกหลักสูตรระหวํางหลักสูตรปริญญาตรี
เกียรตินิยมกับหลักสูตรปริญญาตรีธรรมดากลําวคือผู๎ที่ส าเร็จการศึกษาปริญญาตรีเกียรตินิยมหรือส าเร็จ
การศึกษาปริญญาตรีแตํไมํได๎รับเกียรตินิยมจะต๎องผํานการศึกษาในวิชาการตํางๆที่สถาบันการศึกษา
ก าหนด และผํานการทดสอบและรับรองวําได๎ส าเร็จการศึกษาเลําเรียนมาครบถ๎วนตามหลักสูตรที่ก าหนดไว๎
และจะต๎องได๎รับคะแนนไมํต่ ากวํามาตรฐานที่สถาบันการศึกษานั้นๆก าหนดเหมือนๆกัน เพียงแตํผู๎ที่มี
คะแนนสูงในระดับหนึ่งและผํานเงื่อนไขที่สถาบันการศึกษาแตํละแหํงก าหนด เชํนไมํเคยสอบตกในวิชาใด
วิชาหนึ่งเป็นต๎นก็จะได๎รับการยกยํองด๎วยการให๎เกียรตินิยมแตํยังคงถือวําบุคคลดังกลําวมีความรู๎หรือมีวุฒิ
ในสาขาวิชาการที่ส าเร็จมาเชํนเดียวกับบุคคลที่ไมํได๎รับเกียรตินิยมจึงถือวําผู๎ที่ส าเร็จการศึกษาในระดับ
ปริญญาตรีสาขาใดก็ยํอมมีศักดิ์ และสิทธิเสมอกันไมํวําจะได๎รับปริญญาเกียรตินิยมหรือไมํได๎รับเกียรตินิยม
ก็ตามทั้งบุคคลที่ไมํได๎รับเกียรตินิยมก็สามารถปฏิบัติหน๎าที่ราชการได๎เชํนเดียวกับผู๎ได๎รับเกียรตินิยม
ต าแหนํงนิติกร ซึ่งเป็นต าแหนํงที่กรมบัญชีกลางเปิดรับสมัครคัดเลือกและเป็นมูลเหตุในการยื่น
ฟูองคดีในครั้งนี้ เป็นต าแหนํงหนึ่งที่ไมํมีความจ าเป็นจะต๎องคัดเลือกจากผู๎ได๎รับเกียรตินิยมทางด๎าน
กฎหมายเพราะผู๎ส าเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางด๎านกฎหมายแตํไมํได๎รับเกียรตินิยมสามารถปฏิบัติหน๎าที่
ในต าแหนํงนิติกรได๎หากได๎รับการคัดเลือกดังนั้นการก าหนดให๎ผู๎ได๎รับปริญญาตรีเกียรตินิยมโดยถือวําเป็น
วุฒิที่ผู๎ถูกฟูองคดีที่1ก าหนดให๎ใช๎วิธีการคัดเลือกแทนการสอบแขํงขันจึงเป็นการให๎สิทธิเหนือกวําหรือดีกวํา
ผู๎ที่ได๎รับปริญญาตรีในสาขาเดียวกันแตํไมํได๎รับเกียรตินิยมทั้งๆที่ได๎รับวุฒิอยํางเดียวกันซึ่งมีศักดิ์และสิทธิที่
สถาบันการศึกษารับรองเชํนเดียวกันมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติตํอบุคคลที่มีสถานะทาง
กฎหมายที่เหมือนกันให๎แตกตํางกันยํอมถือได๎วําเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรมเป็นการกระท าที่ไมํ
ชอบมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ตามข๎อ 1.2 ของหนังสือส านักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.4/ว11 ลงวันที่ 3 ตุลาคม
2545 จึงเป็นมติที่ไมํชอบด๎วยกฎหมายอยํางไรก็ตาม หากศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่
1 โดยให๎มีผลย๎อนหลังก็จะกระทบตํอบุคคลผู๎ที่ได๎รับการคัดเลือกเข๎ารับราชการตามมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1
ตลอดจนกระทบตํอการบริหารงานบุคคลของภาครัฐศาลปกครองสูงสุดเห็นควรเพิกถอนมติของ ผู๎ถูกฟูอง
คดีที่ 1 นับตั้งแตํวันที่มีค าพิพากษาถึงที่สุดเป็นต๎นไปแตํเนื่องจากมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ได๎ก าหนดให๎สํวน
ราชการถือปฏิบัติในระหวํางปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ถึง พ.ศ. 2547 ซึ่งขณะนี้ไมํมีผลบังคับใช๎แล๎วศาล
ปกครองสูงสุดจึงไมํจ าต๎องก าหนดค าบังคับให๎เพิกถอนมติของผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1 ดังกลําว
12) การก าหนดให้ผู้ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมทุกสาขาเป็นเหตุพิเศษที่จะได้รับสิทธิคัดเลือก
แทนการสอบแข่งขันเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.
379/2550)
ประกาศรับสมัครของเลขาธิการส านักงานศาลปกครอง (ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1) จะเป็นกฎที่ชอบด๎วย
กฎหมายหรือไมํนั้น