Page 188 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 188

164


                  แท๎จริง ผู๎ก ากับฝุาย 1 กองตรวจคนเข๎าเมือง 2 ส านักงานตรวจคนเข๎าเมือง (ผู๎ถูกฟูองคดี) จึงได๎มีค าสั่ง

                  แตํงตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู๎ฟูองคดีผลการสอบสวนพบวํามีมูล ผู๎ถูกฟูองคดีจึงได๎มีค าสั่งที่ 45/2545 ลง
                  ทัณฑ์กักขังผู๎ฟูองคดี 5 วันในความผิดฐานประมาทเลินเลํอหรือจงใจท าให๎ทรัพย์สินของรัฐเสียหาย ผู๎ฟูอง

                  คดีเห็นวําการลงทัณฑ์ดังกลําวเป็นการซ้ าซ๎อนกับโทษที่ผู๎ฟูองคดีเคยถูกวํากลําวตักเตือนมากํอนแล๎วผู๎ฟูอง

                  คดีจึงได๎ร๎องทุกข์ตํอผู๎ถูกฟูองคดีตํอมาผู๎ถูกฟูองคดีได๎พิจารณาค าร๎องทุกข์ดังกลําวแล๎วและได๎แจ๎งให๎ผู๎ฟูอง
                  คดีทราบวําค าสั่งดังกลําวเป็น ค าสั่งที่ชอบด๎วยกฎหมาย ผู๎ฟูองคดีไมํเห็นด๎วยจึงน าคดีมาฟูองขอให๎ศาลเพิก

                  ถอนค าสั่งลงทัณฑ์กักขังผู๎ฟูองคดี 5 วัน

                         ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การที่ผู๎บังคับบัญชาได๎มีบันทึกวํากลําวตักเตือนผู๎ฟูองคดีเกิดจาก
                  การที่ผู๎ฟูองคดีท าตราประทับของทางราชการสูญหาย สํวนกรณีการลงทัณฑ์กักขังผู๎ฟูองคดีมีก าหนด 5 วัน

                  เป็นผลสืบเนื่องมาจาก าการที่ผู๎ฟูองคดีถูกกลําวหาวําใช๎ตราประทับที่ไมํใชํเป็นของทางราชการได๎จัดท าขึ้น
                  ตรวจอนุญาตให๎แกํผู๎โดยสารตํางชาติและคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได๎สอบสวนแล๎วเห็นวํา การ

                  กระท าของผู๎ฟูองคดีเป็นความประมาทเลินเลํอท าให๎ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายและอาจกํอให๎เกิด
                  ความเสียหายตํอทางราชการ อันเป็นความผิดตามมาตรา 5 (10) แหํงพระราชบัญญัติวําด๎วยวินัยต ารวจ

                  พุทธศักราช 2477 จึงเป็นคนละกรณีกับการที่ ผู๎ฟูองคดีได๎ท าตราประทับสูญหาย และผู๎บังคับบัญชาได๎

                  ลงโทษวํากลําวตักเตือนไปแล๎วดังนั้น เมื่อพิเคราะห์แล๎ววําการลงโทษผู๎ฟูองคดีทั้งสองกรณีเกิดจากมูลเหตุ
                  ตํางกัน การที่ผู๎ถูกฟูองคดีได๎มีค าสั่งที่ 45/2545 ลงทัณฑ์กักขังจึงเป็นค าสั่งไมํซ้ าซ๎อนกับค าสั่งกลําวตักเตือน

                  ประกอบกับกรณีดังกลําวเป็นไปตามระดับทัณฑ์มาตรฐาน ซึ่งผู๎บังคับบัญชาได๎ก าหนดไว๎เชํนเดียวกับการท า

                  อาวุธปืนหายในทุกกรณีโดยยกเว๎นให๎เฉพาะในกรณีที่ มีเหตุสุดวิสัย เนื่องจากหลักเกณฑ์ดังกลําวถูกก าหนด
                  ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให๎เจ๎าหน๎าที่ใช๎ความระมัดระวังในการเก็บรักษาตราประทับที่ อยูํในความ

                  ครอบครองเชํนเดียวกับที่ครอบครองอาวุธปืน เพราะการท าตราประทับหายไปและมีผู๎อื่นเก็บได๎จะเป็น
                  ชํองทางให๎มีการน าตราประทับดังกลําวไปใช๎ในการกระท าความผิดได๎เชํนเดียวกับการท าอาวุธปืนหาย และ

                  ผู๎ถูกฟูองคดีก็ได๎น าหลักเกณฑ์ดังกลําวลงทัณฑ์ข๎าราชการรายอื่นที่มีความบกพรํองในลักษณะเดียวกันนี้
                  มาแล๎ว กรณีจึงไมํถือวําเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรม ค าสั่งลงทัณฑ์ผู๎ฟูองคดีจึงเป็นค าสั่งที่ชอบด๎วย

                  กฎหมาย


                         7) การคัดเลือกบุคคลเพื่อด ารงต าแหน่งบุคลากร 8 ใช่หลักเกณฑ์ที่ไม่มีลักษณะเป็นการเลือก

                  ปฏิบัติ (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.134/2548)

                         อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง (ผู๎ถูกฟูองคดีที่ 1)ได๎ด าเนินการสรรหาข๎าราชการเพื่อแตํงตั้งให๎
                  ด ารงต าแหนํงบุคลากร 8 (ผู๎อ านวยการกองการเจ๎าหน๎าที่ กรมโยธาธิการ โดยในการด าเนินการดังกลําวใช๎

                  วิธีการสรรหาโดยการย๎าย ข๎าราชการระดับ 8 มาด ารงต าแหนํง และโดยการเลื่อนข๎าราชการระดับ 7 ขึ้นมา
                  ด ารงต าแหนํง ซึ่งในการด าเนินการดังกลําวคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมในการเลื่อนข๎าราชการ

                  พิจารณาข๎าราชการระดับ 8 และระดับ 7 ที่อยูํในเกณฑ์ได๎รับการคัดเลือกให๎ด ารงต าแหนํงบุคลากร 8 ทั้ง
                  หมดแล๎ว ผลปรากฏวําในกลุํมข๎าราชการระดับ 8 ผู๎ฟูองคดีมีคะแนนประเมินมากที่สุด สํวนในกลุํม
   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193