Page 184 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 184

160


                  สองรํวมกันเรียกรับเงินจากบริษัทผู๎รับจ๎างกํอสร๎างระบบรวบรวมและบ าบัดน้ าเสียของเทศบาลต าบล ป.

                  ข๎อเท็จจริงฟังได๎ตามข๎อกลําวหา จึงเสนอตํอรัฐมนตรีวําการกระทรวงมหาดไทย ผู๎ถูกฟูองคดีจึงได๎มีค าสั่ง
                  กระทรวงมหาดไทย ที่ 340/2549 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2545 สั่งให๎ผู๎ฟูองคดีที่ 1 พ๎นจากต าแหนํง

                  นายกเทศมนตรีต าบล ป. และให๎ผู๎ฟูองคดีที่ 2 พ๎นจากต าแหนํงเทศมนตรีต าบล ป. ผู๎ฟูองคดีทั้งสองเห็นวํา

                  ค าสั่งดังกลําวไมํชอบด๎วยกฎหมาย มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไมํเป็นธรรมและใช๎ดุลพินิจโดยไมํชอบ
                  เนื่องจากมีการปกปิดรายชื่อพยานมิให๎ผู๎ฟูองคดีทราบจึงน าคดีมาฟูองขอให๎เพิกถอนค าสั่งดังกลําว

                         ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า แม๎คณะกรรมการสอบสวนจะปกปิดรายชื่อพยาน มิให๎ผู๎ฟูองคดี

                  ทราบก็ตาม แตํในบันทึกแจ๎งข๎อกลําวหาและสรุปพยานหลักฐานที่ สนับสนุนข๎อกลําวหาที่ แจ๎งผู๎ฟูองคดีก็มี
                  รายละเอียดของถ๎อยค าพยานดังกลําวแล๎ว ปรากฏตามค าคัดค๎านค าให๎การของผู๎ฟูองคดีกรณีจึงถือได๎วําผู๎

                  ฟูองคดีได๎ทราบข๎อเท็จจริงอยํางเพียงพอ และผู๎ฟูองคดีก็ได๎โต๎แย๎งและชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแล๎ว กรณี
                  จึงไมํท าให๎ผู๎ฟูองคดีทั้งสองเสียเปรียบ และไมํถือเป็นการเลือกปฏิบัติแตํอยํางใด


                         3) การที่ส านักงานต ารวจแห่งชาติไม่พิจารณาเลื่อนยศเป็นพันต ารวจเอกให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่

                  เกษียณอายุราชการตามปกติตามพระราชบัญญัติบ าเหน็จบ านาญข้าราชการฯ เหมือนกับผู้ที่

                  เกษียณอายุราชการตามโครงการเกษียณก่อนก าหนด ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ (ค าพิพากษาศาลปกครอง
                  สูงสุดที่ อ.185/2549)

                         ส านักงานต ารวจแหํงชาติ (ผู๎ถูกฟูองคดี) ได๎จัดท าโครงการปรับเปลี่ยนก าลังพลเพื่อจูงใจให๎

                  ข๎าราชการต ารวจทุกชั้นยศสมัครใจเข๎ารํวมโครงการ โดยข๎าราชการต ารวจชั้นยศพันต ารวจโทที่สมัครเข๎า
                  รํวมโครงการ และได๎รับอนุญาตให๎ลาออกจากราชการตามโครงการดังกลําวจะได๎รับการเลื่อนยศเป็นพัน

                  ต ารวจเอกเป็นกรณีพิเศษ นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ผู๎ถูกฟูองคดีเป็นผู๎ก าหนด โดยได๎รับความ
                  เห็นชอบจากคณะกรรมการข๎าราชการต ารวจและคณะรัฐมนตรีแตํผู๎ฟูองคดีซึ่งด ารงยศพันต ารวจโท และ

                  ต๎องพ๎นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุตามพระราชบัญญัติบ าเหน็จบ านาญข๎าราชการ พ.ศ. 2494 กลับ
                  ไมํได๎รับการพิจารณาให๎เลื่อนยศเป็นพันต ารวจเอกแตํอยํางใด ทั้งที่มีข๎าราชการต ารวจยศพันต ารวจโทที่

                  สมัครเข๎ารํวมโครงการปรับเปลี่ยนก าลังพลหรือเกษียณกํอนก าหนดตํางก็ไมํได๎มีคุณสมบัติใดที่แตกตํางจาก

                  ผู๎ฟูองคดีผู๎ฟูองคดีเห็นวําการกระท าของผู๎ถูกฟูองคดีที่ไมํพิจารณาเลื่อนยศเป็นพันต ารวจเอกให๎แกํผู๎ฟูองคดี
                  เป็นการใช๎ดุลพินิจโดยมิชอบ เป็นการละเลยตํอหน๎าที่ ตามกฎหมายก าหนดให๎ต๎องปฏิบัติเลือกปฏิบัติโดยไมํ

                  เป็นธรรม จึงน าคดีมาฟูองตํอศาลปกครองเพื่อขอให๎ศาลปกครองพิพากษาให๎ผู๎ถูกฟูองคดีออกกฎ ระเบียบ

                  หรือค าสั่งที่เป็นการก าหนดหลักเกณฑ์ให๎ผู๎ฟูองคดีซึ่งออกจากราชการเพราะเกษียณอายุตามปกติได๎รับการ
                  เลื่อนยศเป็นพันต ารวจเอกเชํนเดียวกับข๎าราชการต ารวจยศพันต ารวจโทต าแหนํงสารวัตร และต าแหนํงรอง

                  ผู๎ก ากับการที่ออกจากราชการตามโครงการปรับเปลี่ยนก าลังพลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544
                         ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การออกจากราชการของผู๎ฟูองคดีเป็นการออกจากราชการ

                  เนื่องจากเกษียณอายุราชการตามปกติตามมาตรา 46 (2) แหํง พระราชบัญญัติระเบียบข๎าราชการต ารวจ
                  พ.ศ. 2521 ประกอบกับมาตรา 19 แหํงพระราชบัญญัติบ าเหน็จบ านาญข๎าราชการ พ.ศ. 2494 สิทธิ
   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189