Page 183 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 183
159
3.5.2 แนวค าพิพากษาศาลปกครองเกี่ยวกับหลักความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติ
ในสํวนนี้จะได๎ชี้ให๎เห็นแนวค าพิพากษาของศาลปกครองที่เกี่ยวกับหลักความเสมอภาคและการ
เลือกปฏิบัติ
1) การที่เจ้าพนักงานที่ดินไม่ออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะรายในที่ดินบนเกาะภูเก็ต ไม่เป็นการ
เลือกปฏิบัติ (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.8 – ฟ.10/2546)
ผู๎ฟูองคดีเป็นผู๎ครอบครองและท าประโยชน์ในที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได๎ยื่นค าขอออกโฉนดที่ดินเป็น
การเฉพาะรายตํอ เจ๎าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเจ๎าพนักงานที่ดินมีค าสั่งไมํรับค าขอออกโฉนดที่ดินเป็น
การเฉพาะรายให๎ผู๎ฟูองคดี เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะต๎องห๎ามมิให๎ออกโฉนดตามข๎อ 14 (3) ของ
กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 ( พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให๎ใช๎ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
2497 ผู๎ฟูองคดีเห็นวํา ข๎อ 14 (3) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ ที่ห๎ามมิให๎มีการออกโฉนด
ที่ดินส าหรับที่ดินที่เกาะมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไมํเป็นธรรมกับผู๎ฟูองคดีและประชาชนที่ครอบครอง
และท าประโยชน์ในที่ดินที่ตั้งอยูํบนเกาะภูเก็ต จึงน าคดีมาฟูองขอให๎เพิกถอนข๎อ 14 (3) ของกฎกระทรวง
ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ
ศาลปกครองสูงสุดโดยที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่าบทบัญญัติมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญแหํง
ราชอาณาจักรไทยที่บัญญัติให๎บุคคลได๎รับการคุ๎มครองจากรัฐธรรมนูญโดยเสมอกัน เป็นการวางหลักการให๎
รัฐปฏิบัติตํอบุคคลบนพื้นฐานความเสมอภาคเทําเทียมกัน โดยไมํออกหลักเกณฑ์ให๎มีผลปฏิบัติที่ไมํเสมอ
ภาคแกํบุคคลที่เหมือนกันในสาระส าคัญอยํางเดียวกัน หรือออกหลักเกณฑ์ให๎มีผลปฏิบัติตํอบุคคลแตกตําง
กันในสาระส าคัญที่แตกตํางกันออกไปตามลักษณะเฉพาะของแตํละบุคคล การที่กฎกระทรวง ฉบับที่43
(พ.ศ. 2537)ฯ ก าหนดให๎การออกโฉนดที่ดินในที่เกาะใช๎บังคับกับกรณีการครอบครองที่ดิน ที่เกาะ ซึ่งผู๎
ครอบครองยังมิได๎มีหลักฐานการครอบครองทุกแหํงเสมอเหมือนกัน มิได๎มีการเลือกปฏิบัติกับผู๎ครอบครอง
รายหนึ่งรายใดหรือเกาะหนึ่งเกาะใดเป็นการเฉพาะ กฎกระทรวงดังกลําวจึงไมํขัดตํอหลักความเสมอภาค
ของรัฐธรรมนูญแตํอยํางใด ดังนั้น บทบัญญัติในข๎อ 14 (3) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)ฯ จึง
ชอบด๎วยกฎหมายแล๎ว
2) ค าสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากต าแหน่งเทศมนตรีต าบล
ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.93/2548)
ผู๎ฟูองคดีที่ 1 ด ารงต าแหนํงนายกเทศมนตรีต าบล ป. และผู๎ฟูองคดีที่ 2 ซึ่งด ารงต าแหนํงเทศมนตรี
ต าบล ป. ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีถูกกลําวหาวํามีพฤติการณ์เรียกร๎องผลประโยชน์ตํางๆ และ
ปฏิบัติการไมํชอบด๎วยอ านาจหน๎าที่ และมีความประพฤติในทางที่จะน ามาซึ่งความเสื่อมเสียแกํศักดิ์
ต าแหนํงราชการ คณะกรรมการสอบสวนได๎สอบปากค าพยานฝุายที่กลําวหาจ านวน 4 ปาก แล๎วแจ๎งข๎อ
กลําวหาและสรุปพยานที่สนับสนุนข๎อกลําวหาแกํผู๎ฟูองคดีทั้งสอง โดยปกปิดรายชื่อพยาน ตํอมา
คณะกรรมการสอบสวนได๎รายงานผลการสอบสวนตํอผู๎วําราชการจังหวัด ภ. กรณีกลําวหาวําผู๎ฟูองคดีทั้ง